เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



"2สามีภรรยา" จ้างพี่เลี้ยงเด็กได้เพียง 3 วัน ก่อน "ลูกชาย" ลื่นล้มเข้าห้องไอซียูอาการสาหัส แต่ไม่ปักใจเชื่อ


26 ม.ค. 2564, 15:12



"2สามีภรรยา" จ้างพี่เลี้ยงเด็กได้เพียง 3 วัน ก่อน "ลูกชาย" ลื่นล้มเข้าห้องไอซียูอาการสาหัส แต่ไม่ปักใจเชื่อ




เมื่อเวลา 23.00 น.วันที่ 25 มกราคม 2564 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่หมู่บ้านดีดีแลนด์ บ้านเลขที่ 99 /02  ตำบลอุทัย อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้พบกับ นายโจ ทองมุขดา อายุ 26 ปี และ นางสาว กองทอง อาจอารี อายุ 24 ปี สองสามีภรรยา และเป็นพ่อแม่ ของ ด.ช. วีรพง ทองมุขดา ( น้องไตเติ้ล) อายุ 1 ขวบ 6 เดือน ลูกชาย ที่ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส รักษาตัวอยู่ที่ห้อง ICU 2 โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา พร้อมเปิดเผยว่า ตนเองและภรรยา ทำงานอยู่ ที่นิคม อุตสาหกรรมโรจนะ มีลูกชาย 1 คนชื่อน้องไตเติ้ล อายุ 1 ขวบ 6 เดือน 16 วัน

ก่อนหน้านี้ พ่อของตนเองได้เลี้ยงให้ แต่ตนเองเห็นว่าพ่อมีอายุมากแล้วและเป็นผู้ชายตนเอง และภรรยา จึงได้ตกลงกันว่าจะนำลูกมาอยู่ด้วยและจะหาจ้างคนเลี้ยง จึงได้เข้าไปอยู่ในกลุ่ม หาคนเลี้ยงเด็ก และก็มีคนแนะนำว่าสองสามีภรรยา คู่หนึ่ง คู่นี้เลี้ยงเด็กดี แต่ตนก็ดูหลายเจ้าแล้ว แต่เนื่องด้วยเวลาไม่ค่อยสะดวก จึงได้ติดต่อกับสองสามีภรรยาคู่นี้ และเห็นว่าอยู่ใกล้ในหมู่บ้านเดียวกันจึงได้นำลูกชายไปฝากเลี้ยงไว้เมื่อเช้าวันที่ 23 มกราคม และช่วงเย็นก็ไปหาลูกชาย แต่เห็นลูกชายอยู่ในบ้าน ไม่ได้เข้าไปหาเพราะกลัวว่าลูกจะงอแงและร้องตาม เพราะลูกชายติดตนเองมาก ตนจึงคุยกับพี่เลี้ยงและก็ได้กลับบ้านจนมาเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 24 พี่เลี้ยงได้โทรศัพท์มาหาตนที่ทำงานและบอกให้ตนเองซื้อยา แก้ตัวร้อน ยาแก้อักเสบ และของใช้ลูกเข้ามาให้ด้วย

 

 



ตนจึงได้ซื้อมาให้ที่บ้านและก็ได้รับแจ้งจากพี่เลี้ยงว่าลูกชายลื่นล้มในห้องน้ำแต่ไม่เป็นอะไรมากตอนนี้หลับอยู่ตนจึงไม่ได้เข้าไปดูกลัวว่าน้องจะร้องตาม และก็กลับมาบ้าน จนมาช่วงเช้าของวันนี้เวลาประมาณ 9.00 น. ทางพี่เลี้ยงได้โทรศัพท์มาหาตนเอง บอกว่าลูกชายมีอาการชัก ให้รีบมาโรงพยาบาลอุทัย ตนเองพร้อมภรรยาจึงได้รีบเดินทางไปที่โรงพยาบาลและก็เห็นสภาพลูกชายมีใบหน้า บวมเขียวช้ำ หมดสติและ ทางเจ้าหน้าโรงพยาบาลซักประวัติ ลูกชายของตนเองเพื่อจะนำส่งต่อโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา เนื่องจากเด็กมี อาการสาหัส ไม่รู้สึกตัวพอไปถึงโรงพยาบาลหมอได้พาเข้าห้อง ICU ทันที และพยาบาลก็พูดคุยกับตนเองว่า เด็กนั้นมีเลือดคั่งในสมอง เส้นนัยน์ตาเหมือนจะแตก เส้นเลือดในคอขาด และมีเลือดออกในช่องท้อง ตอนนี้น้องอาการสาหัสมาก และบอกให้ตนกลับมาอยู่บ้านก่อนพรุ่งนี้ค่อยมาดูน้อง

ตนถึงได้เดินทางไปลงบันทึกประจำวันไว้ ที่ สถานีตำรวจภูธรอุทัย อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มาทำการสอบสวนหาสาเหตุกับพี่เลี้ยง ว่าเกิดจากสาเหตุอะไรกันแน่ ซึ่งตนเองไม่เชื่อว่าน้องจะลื่นล้มเองและ มีอาการสาหัส เป็นตายเท่ากัน แต่ถ้าเกิดจากอุบัติเหตุจริง ตนเองก็จะไม่ติดใจ แต่ถ้าเกิดจากการกระทำของ พี่เลี้ยงตนเอง จะดำเนินคดีและอยากให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ช่วยติดตามและตรวจสอบเพื่อหาความจริงให้กับครอบครัว

ล่าสุด เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 26 มกราคม 2564 ที่โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นพ.ราชิต เทิดสุวรรณ ผู้ช่วยผู้อำนวยการด้านตรวจสอบภายใน พร้อมด้วย นายโจ ทองมุขดา อายุ 26 ปี และ นางสาว กองทอง อาจอารี อายุ 24 ปี สองสามีภรรยา และเป็นพ่อแม่ ของ ด.ช. วีรพง ทองมุขดา ( น้องไตเติ้ล) อายุ 1 ขวบ 6 เดือน ลูกชาย ที่ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส พูดคุยพร้อมเปิดเผย อาการล่าสุดของน้องยังน่าเป็นห่วง เบื้องต้นมีอาการเลือดออกใต้หุ้มเยื้อสมองชั้นนอก ซึ่งจะมีการตรวจละเอียดอีกครั้งว่ามีอาการบาดเจ็บตรงไหนอีกบ้าง เพื่อเก็บหลักฐานเพื่อใช้ประโยชน์ในกระบวนการยุติธรรมต่อไป ซึ่งก่อนหน้านี้มีการผ่าตัดสมอง ซึ่งก็ต้องดู ต้องรักษาอย่างละเอียดอีกครั้งทางโรงพยาบาลรักษาให้ดีที่สุด

 

 

 


ด้านนายโจ ทองมุขดา อายุ 26 ปี และ นางสาวกองทอง อาจอารี อายุ 24 ปี พ่อแม่ น้องไตเติ้ล กล่าวทั้งน้ำตาด้วยความเจ็บปวดหลังทราบถึงอาการบาดเจ็บของลูกชาย ตอนนี้หวังอยากให้น้องกลับมารู้สึกตัว เพราะจากฟังที่หมอบอกเป็นห่วงเรื่องสมองของลูกที่ต้องทำการผ่าตัด เป็นห่วงลูกมาก ถ้าเป็นแทนได้อยากเป็นแทน ซึ่งก่อนหน้าที่จะได้รับบาดเจ็บมีการคุยกันกับทางพี่เลี้ยงเด็กก็มีการถ่ายรูปส่งกันให้ดู

ซึ่งตอนนี้ความคิดของครอบครัวแบ่งเป็น 2 ส่วน คือเด็กเล็กอาจจะล้มเองหรืออาจจะเข้าทำ แต่การถ้าลื่นล้มไม่น่าจะรุนแรงขนาดนี้ แผลทั้งหน้าไม่น่าจะใช่ ซึ่งก็จะรอใบตรวจจากหมอเพื่อความชัดเจน โดยล่าสุดวันนี้ได้พูดคุยกันผ่านไลน์ และได้บอกอาการน้องไป รวมถึงทางญาติติดใจอาการบาดเจ็บ แผลที่ใบหน้า แต่ก็ไม่มีการสอบกลับมีแต่อ่าน ซึ่งเป็นที่น่าสงสัย จากนั้นเดินทางไปดูลูกที่ห้องไอซียู กลับออกมาก็รับกลับสภาพลูกชายที่เห็นไม่ได้หลั่งน้ำตา พร้อมเผยถึงความรู้สึกรับไม่ได้กับสภาพลูกที่เป็นอยู่ในสภาพนี้

 

 

 






Recommend News





MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.