ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า นางสาวจุฑามาศ พูลกัน อายุ 39 ปี เจ้าของร้าน บอกว่า ตนเองและครอบครัวเช่าตึกเปิดร้านเพนท์เล็บ สามีทำงานบริษัท เจอโควิด-19 เมื่อปีที่แล้ว ร้านเพนท์เล็บเปิดไม่ได้ แฟนก็โดนปิดบริษัท ทุกอย่างโดนปิดหมดเลย ก็หันมาขายออนไลน์ ขายทุกอย่าง แม้แต่ผลไม้ออนไลน์ เงาะ มังคุด แต่ก็ขายไม่ดี เงินที่เก็บไว้ก็ร่อยหรอ ไม่มีเงินใช้จ่าย ลูกต้องกิน บ้านต้องเช่า จึงคุยกับแฟนว่า ถ้าเราเจอโควิด-19 อีกรอบ เราจะอยู่อย่างไร ต้องหาอาชีพที่มีรายได้มาเสริม จึงปรึกษากับแม่ ว่าอยากขายขนมครก หวังไว้ว่าน่าจะมีรายได้สักวันละ 100-200 ก็ยังดี เพื่อให้มีเงินจ่ายค่าเช่าตึก ไปหาสูตรจากพี่ทดลองผสมแป้งตามสูตรที่ได้มา ลองทุกอย่าง ทำทุกวิธีก็ไม่สำเร็จ ขนมครกไม่ล่อน ลองผสมแป้งจนมือเปื่อย แต่ก็ไม่ท้อถอย ลองผิดลองถูก ลองมั่ว จนกระทั่งทำได้สำเร็จแป้งล่อนไม่ติดกระทะเลย และมาเพิ่มเสน่ห์ของขนมครกตรงที่ใส่ไส้ทะลัก เติมไส้อย่างไม่เสียดาย ใส่จนล้น จนใส่ไม่ได้ ยิ่งถ้าเป็นช่วงที่มะพร้าวราคาไม่สูงมากก็จะใส่ให้เยอะจนล้นออกมา แต่ถ้ามะพร้าวแพงเหมือนในช่วงนี้ก็จะใส่ให้เต็มฝา ส่วนไส้มันม่วงและฝักทอง ข้าวโพดนั้น ใส่เยอะล้นทะลักตลอด ทุกวันนี้ มีเตาอยู่ 3 เตา ก็ทำขายไม่ทัน ลูกค้าต้องโทรมาสั่งก่อน ช่วงโควิด-19 ลูกค้าไม่ออกจากบ้านก็จะสั่งจากไลน์แมน ทำให้รายได้เกินที่คาดไว้ มีเงินใช้หนี้ และจ่ายค่าเช่าตึกได้แล้ว

 

ด้าน นายณพพร ถาวโร อายุ 33 ปี เจ้าของร้านบอกว่า ขนมครกไส้โคตรทะลัก เป็นสูตรที่ตนเองและภรรยาช่วยกันคิดช่วยกันพัฒนา จากตอนแรกไปศึกษาหาความรู้กับรุ่นพี่ แต่พอมาทำเองตอนแรกก็ไม่ประสบความสำเร็จ จึงทดลองกันไปเรื่อยๆ ในที่สุดก็พบว่าการใช้กะทิกล่อง จะช่วยให้ขนมครกมีรสชาติเข้มข้น และใช้แป้งข้าวกล้องไรเบอรี่ เพิ่มความหอมและคุณประโยชน์  มีสีม่วงแปลกตา ส่วนไส้ก็ใส่ให้แน่นจนล้นไม่ต้องเสียดาย ขนมครกไส้โคตรทะลัก จึงอร่อย มีกลิ่นหอมจากแป้งและกะทิ กรอบนอกนุ่มใน ไส้แน่นจนล้น ปกติมี ไส้ข้าวโพด ฝักทอง มันม่วง เผือก และมะพร้าวอ่อน แต่ถ้าใครที่ชื่นชอบขนมครกแบบโบราณ ที่ใส่ต้นหอม ก็มีบริการ ส่วนราคานั้น มีด้วยกัน 2 ไซด์ คือ ชุดเล็กราคา 30 บาท มีขนมครก 5 คู่ ชุดใหญ่ราคา 90 บาท มี 16 คู่ คละไส้ได้