เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



นายกฯ ถกด่วน "ศบค.ชุดเล็ก" ประเมินสถานการณ์ หลังพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 หลังกักตัว 14 วัน


20 ส.ค. 2563, 10:45



นายกฯ ถกด่วน "ศบค.ชุดเล็ก" ประเมินสถานการณ์ หลังพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 หลังกักตัว 14 วัน




เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 20 ส.ค. 63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เรียกประชุม ศบค. ชุดเล็ก อาทิ พล.อ.อนุพงศ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย. นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดสาธารณสุข นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร นพ. อุดม คชินทร ที่ปรึกษาศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์  รองผู้บัญชาการทหารบก (รอง ผบ.ทบ.) ในฐานะรองประธานคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หารือข้อสนอของคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่มี พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ทั้งเรื่องการขยาย พ.ร.ก.ฉุกเฉินออกไปอีก 1 เดือนเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แต่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับกรณีการชุมนุมทางการเมือง การประเมินผลหลังผ่อนคลายมาตรการให้เปิดการทดลองเรียนเต็มรูป และ การอนุญาตให้มีผู้เข้าชมการแข่งขันกีฬาได้ตามที่กำหนด



ด้าน นพ. อุดม คชินทร ที่ปรึกษา ศบค. กล่าวก่อนเข้าร่วมการประชุม ถึงกรณีตรวจพบเชื้อโควิด-19 ในคนไทย 2 คน ว่า ซากเชื้อโควิด 19 ไม่แพร่ระบาด ซึ่งจากการยืนยันของกระทรวงสาธารณสุข ก็พบว่าทั้ง 2 คน ผ่านการกักกันตัวของรัฐ 14 วัน โดยไม่พบเชื้อก็ไม่มีปัญหา

ทั้งนี้ การพบซากเชื้อในไทย ก็มีการพบอยู่ประปราย ยืนยันว่า ซากเชื้อไม่ติดต่อ ขอให้ประชาชนสบายใจได้ อย่าตื่นตระหนก อีกทั้ง ตรวจพบเชื้อโควิด-19 ในคนไทย 2 คน ไม่ส่งผลต่อการพิจารณาผ่อนคลายมาตรการต่างๆ เนื่องจากไม่ใช่การระบาดระลอก 2 ที่ผ่านมาไทยไม่เคยลดมาตรการด้านสาธารณสุข และการพบซากเชื้อก็ไม่ใช่การแพร่ระบาดรอบ 2 และยังมั่นใจในมาตรการด้านสาธารณสุขของไทย ที่ดำเนินการมาอย่างเข้มงวด และ ประชาชนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีมาตลอด


สำหรับการประชุม ศบค.ชุดเล็กวันนี้ ก็จะมีการพิจารณาให้ผ่อนคลายมาตรการต่างๆเพิ่มเติม เช่น ให้ประชาชนเปิดเข้าชมกีฬา หรือคอนเสิร์ตตามขนาดพื้นที่ เป็นต้น ส่วนการพัฒนาวัคซีนโควิด 19 ที่ยังไม่พิจารณางบประมาณ 600 ล้านบาท ร่วมกับมหาวิทยาลัยอ็อกฟอร์ด นั้น ตนเห็นว่าเรื่องนี้ต้องทำความเข้าใจว่า หากไทยดำเนินการเองต้องใช้เวลา อีกประมาณ 1 ปี ครึ่ง ซึ่งประเทศไทยมี บริษัท”สยามไบโอไซเอนซ์” ที่พร้อมผลิตได้ และเมื่อยกระดับความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยอ็อกฟอร์ด จะพัฒนาผลิตวัคซีน ได้ถึง 200 ล้านโดส เมื่อมีความร่วมมือ ก็จะเป็นบริษัทที่ได้รับมาตรฐานระดับโลก และสามารถจำหน่ายวัคซีนให้ต่างประเทศได้ ทั้งนี้ยืนยันว่าวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกัน โควิด 19 คือการผลิตวัคซีนมาป้องกัน อย่างไรก็ตาม ยังมีความจำเป็น ที่คงต้อง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในการป้องกันโควิด-19 ต่อไป เพราะเป็นกฎหมายตัวเดียวที่รวมหลายหน่วยงานไว้ โดยขออดทนอีก 1 เดือน






Recommend News





MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.