เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



"กรมบังคับคดี" ชี้แจงกรณีเป็นหนี้ กยศ. แค่หมื่นบาท กลับถูกยึดทรัพย์ขายทอดตลาด


26 มิ.ย. 2563, 11:14



"กรมบังคับคดี" ชี้แจงกรณีเป็นหนี้ กยศ. แค่หมื่นบาท กลับถูกยึดทรัพย์ขายทอดตลาด




จากกรณีที่มีข่าวเรื่อง ญาติของผู้กู้ยืมเงินกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ร้องว่าถูกบังคับคดียึดบ้านทรงไทยราคากว่า ๒ ล้านบาท ออกขายทอดตลาด ไปชำระหนี้เงินกู้ กยศ. จำนวนเพียง ๑๗,๐๐๐ กว่าบาท โดยเจ้าของทรัพย์ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด นั้น

กรณีดังกล่าวอยู่ในการดำเนินการของสำนักงานบังคับคดีจังหวัดแพร่ ตามคำพิพากษา ของศาลจังหวัดแพร่ โดยโจทก์ได้แถลงต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีว่า โจทก์ไม่เคยได้รับชำระหนี้ตาม คำพิพากษาจากจำเลยแต่อย่างใด แต่เนื่องจากทรัพย์สินของจำเลยที่ ๑ ผู้กู้ยืมถูกยึดไว้ในคดีอื่นแล้ว และไม่มีทรัพย์สินอื่นใดที่จะดำเนินการบังคับคดีเพื่อชำระหนี้ได้ โจทก์จึงขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการยึดที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างของจำเลยที่ ๓ ติดจำนองเจ้าหนี้รายอื่นออกขายทอดตลาดเพื่อชำระหนี้



เมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ยึดที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างตามคำร้องขอของโจทก์แล้ว ได้แจ้งการยึดไปยัง จำเลยที่ ๓ พร้อมแจ้งให้ทราบว่าสามารถขอไกล่เกลี่ยข้อพิพาทชั้นบังคับคดีได้ ซึ่งจำเลยที่ ๓ ได้รับหมายแจ้งแล้ว แต่ไม่ได้มาติดต่อเพื่อขอไกล่เกลี่ยข้อพิพาท เจ้าพนักงานบังคับคดีจึงต้องดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนดโดยประกาศขายทอดตลาดทรัพย์ดังกล่าวโดยการจำนองติดไป ทั้งนี้เจ้าพนักงานบังคับคดีได้แจ้งกำหนดวันขายทอดตลาดไปยังจำเลยที่ ๓ พร้อมปิดประกาศขาย ณ ทรัพย์ที่จะทำการขายทอดตลาดในการประกาศขายแต่ละครั้ง คดีนี้มีการขายทอดตลาดมาแล้วถึง ๑๐ นัด แต่ไม่มีผู้เข้าสู้ราคา จำเลยที่ ๓ ซึ่งทราบกำหนด วันขายทอดตลาดโดยชอบแล้วไม่เคยมาดูแลการขายหรือมาติดต่อกับเจ้าพนักงานบังคับคดีเพื่อขอไกล่เกลี่ยข้อพิพาทแต่อย่างใด จนกระทั่งในการขายทอดตลาดครั้งที่ ๑๑ เมื่อวันที่ ๒๓ มิถุนายน ๒๕๖๓ มีบุคคลภายนอกได้ซื้อทรัพย์ดังกล่าวไปในราคา ๓๐,๐๐๐ บาท ซึ่งผู้ซื้อทรัพย์ดังกล่าวจะต้องรับภาระในการไปชำระหนี้จำนองอีกเป็นเงินกว่า ๒ ล้านบาท


ในวันนี้ (วันที่ ๒๕ มิถุนายน ๒๕๖๓) ผู้อำนวยการสำนักงานบังคับคดีจังหวัดแพร่ ได้ลงพื้นที่ร่วมกับอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดแพร่ และยุติธรรมจังหวัดแพร่ โดยได้พูดคุยกับจำเลยที่ ๓ ถึงแนวทางช่วยเหลือในกรณีดังกล่าวแล้ว ซึ่งได้กำหนดนัดหมายผู้ซื้อทรัพย์และผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายเข้ามาเพื่อเจรจาหาทางออกร่วมกันต่อไปในวันที่ ๑๔ กรกฎาคม ๒๕๖๓ นี้ กรมบังคับคดี ๐ ๒๘๘๑ ๔๙๙๙๙ หรือสายด่วนกรมบังคับคดี ๑๑๑๑ กด ๗๙ เว็บไซต์ กรมบังคับคดี www.led.go.th






Recommend News





MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.