เพจสำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ ได้มีการเผยข้อมูลจากดุสิตโพล ที่มีการสำรวจประชาชนชาวไทย หลังมีการประกาศคลายล็อกดาวน์ ว่าจังหวัดไหนที่อยากจะไปท่องเที่ยวมากที่สุด ซึ่งผลออกมามี 5 จังหวัดที่ได้รับความนิยมได้แก่

อันดับ 1 เชียงใหม่ 31.00%
อันดับ 2 ประจวบคีรีขันธ์ 28.14%
อันดับ 3 กรุงเทพมหานคร 19.35%
อันดับ 4 ชลบุรี 18.55%
อันดับ 5 กาญจนบุรี 11.92%

 

อย่างไรก็ดีวันที่16 มิ.ย. 63 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมภาคการท่องเที่ยว เป็นมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และกระทรวงการคลังเสนอเข้าที่ประชุมให้จัดทำโครงการมอบส่วนลด เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวในประเทศ

สำหรับมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว ประกอบด้วย 3 แพ็กเกจ แบ่งเป็น แพ็กเกจสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ และ แพ็กเกจสำหรับประชนทั่วไป เป็นระยะเวลา 4 เดือนตั้งแต่ก.ค.-ต.ค.2563

ก่อนหน้านี้ นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือททท. เปิดเผยถึงขั้นตอนในการจองรับสิทธิทั้ง 3 แพ็กเกจว่า เบื้องต้นจะตั้งชื่อเพียงชื่อเดียว และเป็นชื่อที่สื่อให้เห็นชัดเจนว่าเป็นการกระตุ้นมาตรการไทยเที่ยวไทย

ผู้ว่าฯ ททท. ระบุว่าขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาชื่อที่เหมาะสม หากทางการได้ชื่อที่เหมาะสม รวมไปถึงได้ระบบลงทะเบียนแบบดิจิทัลแล้ว จะเริ่มเปิดให้ประชาชนได้ใช้งานต่อไป

สำหรับรายละเอียดและเงื่อนไขขั้นตอนเบื้องต้น ที่ถูกเปิดเผยออกมาได้แยกออกเป็น 3 แพ็กเกจ ได้แก่

1.แพ็กเกจ “กำลังใจ” สำหรับเจ้าหน้าที่บุคลากรทางการแพทย์ จำนวน 1.2 ล้านคน เป็นการมอบงบฯศึกษาดูงานแบบอบรมสัมมนา ผ่านผู้ประกอบการท่องเที่ยว หรือรัฐบาลจ่ายเงินให้ 2,000 บาทต่อคน

2.แพ็กเกจ “เราไปเที่ยวกัน” สำหรับประชาชนทั่วไป มอบส่วนลดค่าจองห้องพัก โดยช่วยจ่ายค่าห้องพัก 40% ต่อคืน สูงสุดไม่เกิน 3,000 บาทต่อคืน สามารถเลือกโรงแรมได้เอง

3.แพ็กเกจ “เที่ยวปันสุข” สำหรับประชาชานทั่วไป มอบส่วนลดค่าเดินทาง ทั้งตั๋วเครื่องบิน หรือค่ารถเช่า โดยที่ผู้ซื้อจ่าย 60% รัฐช่วยจ่ายที่เหลืออีก 40% สูงสุดไม่เกิน 1,000 บาท

ทั้งนี้ ผู้ที่จะได้รับสิทธิ์ต้องเป็นคนไทย อายุ 20 ปีขึ้นไป สามารถลงทะเบียนผ่านแอพของธนาคารกรุงไทย เพื่อขอรับบัตรกำนัลอิเล็กทรอนิคส์และนำมาเป็นส่วนลด