เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 25 เม.ย. 63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  นายวิทูรัช ศรีนาม ผวจ.จันทบุรี , ดร.รัฐวิทย์ ตั้งเกียรติพชร นายกสมาคมการค้าและการท่องเที่ยวชายแดนไทย กัมพูชา จ.จันทบุรี , พระครูสถิต ธรรมานุวัตร เจ้าอาวาสวัดทับไทร อ.โป่งน้ำร้อน , พระวิเทศธรรมาภรณ์ ประธานมูลนิธิธรรมกาย วัดธรรมกาย จ.ปทุมธานี ร่วมกับญาติโยมหลายสาขาอาชีพ มอบสิ่งของต่าง ๆ จำนวนนับพันรายการ อาทิ หน้ากากอนามัย , สเปรย แอลกอฮอล์ , แท่นเหยียบเจล , รองเท้า, ตลอดทุเรียนหมอนทอง พร้อมด้วยค่าขนส่งสิ่งของทั้งหมด ถวายไปยังสมเด็จพระอัครมหาสังฆราชราชาธิบดี สมเด็จพระมหาสังฆราช ในราชอาณาจักรกัมพูชา เพื่อใช้ในการดูแลสุขภาพพระสงฆ์ สามเณรชาวกัมพูชาในช่วงการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 มีตัวแทนของสมเด็จพระมหาสังฆราชฯ กัมพูชา ข้ามแดนมารับการถวายสิ่งของ ท่ามกลางความรู้สึกอิ่มบุญทั้งผู้ถวายและผู้รับการถวาย ทั้งนี้ หลังจากการถวาสิ่งของทั้งหมดแล้ว รถปิกอัพจากเมืองไทยจำนวน 2 คัน ได้บรรทุกสิ่งของทั้งหมดมุ่งหน้าไปยังประเทศกัมพูชาทันที 

 

ภายหลังจากถวายสิ่งของ นายวิทูรัช ศรีนาม ผวจ.จันทบุรี เปิดเผยถึงการพิจารณาให้ จ.จันทบุรี ปลดล็อกจาก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่รัฐบาลกำหนดใช้เพื่อป้องกันการลุกลามของไวรัสโควิด-19 ว่า ในวันที่ 1 พ.ค. นี้ไม่ใช่การปลดล็อกทั้งหมด แต่เป็นการทยอยปลดล็อกเป็นเรื่อง ๆ ไป เนื่องจากที่ผ่านมาชาว จ.จันทบุรี ได้ร่วมมือกันอย่างเต็มที่ไม่ให้มีผู้ติดเชื้อเพิ่ม หลังจากที่พบผู้ติดเชื้อเพียง 3 รายและรักษาหายไปทั้ง 3 รายแล้ว เพียงแต่การทยอยปลดล็อก จะยังไม่สามารถกลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้เหมือนเดิม ส่วนจะทยอยปลดล็อกเรื่องใดบ้าง จะพิจารณาเป็นเรื่อง ๆ ไป แต่มาตรการป้องกันไวรัสโควิด-19 จะยังมีอยู่ต่อไปเหมือนเดิม เพื่อไม่ให้เกิดการระบาดของเชื้อไวรัสนี้เป็นครั้งที่ 2 ในการทยอยปลดล็อกจะกำหนดเงื่อนไขหรือแนวทางให้ประชาชนปฏิบัติตาม ถ้าทำไม่ได้จะกลับมาล็อกตามเดิม แต่จะดูเป็นรายบุคลลไป ไม่เหมารวมว่าจะให้กลับไปอยู่กรอบตามล็อกเดิมทั้งหมด ขึ้นอยู่บุคลคลนั้นหรือคนในอาชีพใดอาชีพหนึ่งปฏิบัติตามเงื่อนไขได้หรือไม่