เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



รมว.ดีอีเอส สั่งตั้งศูนย์วันสต็อปเซอร์วิส เปิดสาย 1441 รับแจ้งเหตุ เร่งช่วยเหลือเหยื่อคอลเซ็นเตอร์


2 ต.ค. 2566, 14:39



รมว.ดีอีเอส สั่งตั้งศูนย์วันสต็อปเซอร์วิส เปิดสาย 1441 รับแจ้งเหตุ เร่งช่วยเหลือเหยื่อคอลเซ็นเตอร์




วันที่ 2 ต.ค. 66 สภาผู้บริโภค ขอบคุณ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอีเอส ที่สั่งการให้จัดตั้งศูนย์ Anti Online Scam Operation Center (AOC) หรือศูนย์ต่อต้านอาชญากรรมออนไลน์ เป็น One Stop Service (วันสต็อปเซอร์วิส) เพื่อรับแจ้งเหตุแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ล่อลวง หลอกให้ประชาชนโอนเงินหรือดูดเงินออกจากบัญชีธนาคาร พร้อมเปิดสายด่วน 1441 เพียงหมายเลขเดียว ให้ผู้เสียหายโทรศัพท์เข้าแจ้งเหตุ เพื่อลดขั้นตอนและเร่งติดตามสกัดการยักย้ายถ่ายโอนเงินไปยังบัญชีอื่น หรือ บัญชีม้าเป็นทอดๆ ทันทีที่ได้รับแจ้งจากผู้เสียหาย

สอดคล้องกับข้อเสนอที่ สภาผู้บริโภค ร่วมให้ข้อมูลสิทธิของประชาชนเมื่อถูกคุกคามจากภัยไซเบอร์ ในเวทีเสวนา ที่อาคารรัฐสภาเมื่อสัปดาห์ก่อน และได้เสนอแนวทางดังกล่าวต่อธนาคารแห่งประเทศไทยไปก่อนหน้านี้ พร้อมกับมาตรการอื่น เพื่อใช้อำนาจตาม พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.2566



การตั้งศูนย์ดังกล่าว แสดงให้เห็นว่า กระทรวงดีอีเอส และนายประเสริฐ ไม่นิ่งนอนใจต่อปัญหาและความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับจากการก่ออาชญากรรมทางไซเบอร์ ที่เป็นภัยคุกคามความมั่นคงประเทศ และความไม่ปลอดภัยในทรัพย์สินของประชาชน และนับวันกลุ่มคอลเซ็นเตอร์ดังกล่าวได้พลิกแพลงกลวิธีเพื่อให้เหยื่อหลงเชื่อ กดลิงก์ โอนเงิน และดูดเงินประชาชน และกระจายไปยังบัญชีอื่นอย่างรวดเร็ว และยากต่อการช่วยเหลือติดตามเงินมาคืนให้แก่ผู้เสียหาย

การมีสายด่วนเบอร์เดียว 1441 และศูนย์นี้ จะช่วยลดขั้นตอน หรือเสียเวลาไปกับการประสานติดต่อกับหน่วยงานต่างๆ ซึ่งต้องใช้เวลาและล่าช้าไม่ทันการปฏิบัติการของกลุ่มมิจฉาชีพที่จะโอนเงินของผู้เสียหายต่อไปเป็นทอดๆ อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะหากช่วยเหลือ หรือ อายัดบัญชีการเงินได้ ใน 1 ชั่วโมงนับจากเวลาที่รับแจ้ง

ตามที่ กระทรวงดีอีเอส ตั้งเป้าไว้ เชื่อว่าจะช่วยระงับ ลดการสูญเงินและมีโอกาสติดตามเงินดังกล่าวคืนกลับแก่ผู้เสียหายได้มากขึ้น ตลอดจนจำนวนคดีก็จะค่อย ๆ ลดลงไปในที่สุด ซึ่งสภาผู้บริโภคจะติดตามและสนับสนุนการทำงานของศูนย์ One Stop Service ในการให้ความคุ้มครอง ช่วยเหลือ ดูแลประชาชนซึ่งเป็นผู้บริโภคอย่างจริงจังต่อไป เพราะปัจจุบันการหลอกลวงยังคงมีความรุนแรงและกลุ่มมิจฉาชีพยังพยายามพลิกแพลงรูปแบบการล่อลวง อยู่ตลอดเวลา


ขณะที่ นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ สว. ได้สนับสนุนแนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าวของสภาองค์กรผู้บริโภค ที่เห็นว่าการก่ออาชญากรรมไซเบอร์ ยังทวีความรุนแรง แม้จะมี พ.ร.ก.ปราบปรามไซเบอร์เพื่อจัดการปัญหาแล้ว แต่รัฐบาลก็ควรเพิ่มมาตรการและกลไกที่มีประสิทธิภาพขึ้น ด้วยการตั้งศูนย์ป้องกันและแก้ไขเพื่อบูรณาการทุกฝ่ายภาคส่วน ร่วมศึกษาความก้าวหน้าที่มิจฉาชีพใช้ล่อลวง เพื่อนำไปกำหนดเป็นมาตรการล่วงหน้าป้องกัน

พร้อมประสานธนาคารแห่งประเทศไทย สถาบันการเงิน ให้กำหนดมาตรการควบคุมความเสียหาย ป้องกันการเคลื่อนย้ายเงินออกนอกประเทศ การโอนไปในระบบที่ไม่สามารถตรวจสอบได้ และเยียวยาติดตามเงินกลับคืนโดยเร็ว รวมถึงต้องมีมาตรการป้องกันและดำเนินการกับเจ้าหน้าที่รัฐ ที่ร่วมมือ สนับสนุน มิจฉาชีพก่อเหตุทันที

ล่าสุด เพื่อเร่งปราบปรามอย่างจริงจัง พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีคำสั่งส่ง 7 มือปราบปรามอาชญกรรมทางเทคโนโลยี เข้าปฏิบัติหน้าที่ตามโครงสร้างศูนย์ปราบปรามอาชญากรรม ทางเทคโนโลยสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้ว โดยมือปราบทั้ง 7 นาย ต่างมีผลงานจับกุมและปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ปราบปรามเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ บุหรี่ไฟฟ้ามาแล้ว ในปี 2566 นี้






Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.