วันนี้ (29 ก.ย. 66) นายอภิรัฐ สาริมาตย์ อายุ 68 ปี พนักงานของบริษัทขนส่งแห่งหนึ่ง ชาวอุดรธานี ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.ต.กฤษฎา ชานนท์ พนักงานสอบสวน ว่า นายอุทัยฯ ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง ได้เข้าไปขโมยเอาเงินในลิ้นชักบริเวณเคาน์เตอร์ขายตั๋วของรถโดยสารในบขส.แห่งที่ 2 ถนนรอบเมือง ต.บ้านเลื่อม อ.เมือง จ.อุดรธานี ล่าสุดขโมยเอาเงินสดจำนวน 2,000 บาท ในโต๊ะทำงานของบริษัทฯเหตุเกิดสถานีขนส่งแห่งที่ 2 อุดรธานี วันนี้เวลา 01.00 น. อยากให้ตร.ตำรวจช่วยติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ด้วย

ภายหลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สภ.เมืองอุดรธานี รีบรุดลงพื้นที่ทันทีและเก็บหลักฐานภาพวงจรปิด โดยภาพวงจรปิดพบว่าคนร้ายเข้ามาก่อเหตุเมื่อเวลา 01.00 น. ในภาพวงจรปิดคนร้ายมาคนเดียวสวนเสือคุมสีดำได้เดินดูลาดเลาก่อนบริเวณบขส. จากนั้นได้ปีนเข้ามาที่ช่องบริเวณเคาน์เตอร์ แม้ช่องเคาน์เตอร์เล็กๆ แต่โจรรายนี้ก็ยังปีนเข้าไปได้ ไวและคล่องแคล่วยังกับงูเลื่อย และภาพวงจรปิดอีกมุม พอโจรเข้าไปได้แล้ว ก็นั่งยังกับกบค่อยๆ กระตึ๊บๆ ไปที่ลิ้นชักเก็บเงิน ค่อยๆ รื้อค้นหาทรัพย์สินมีค่าในลิ้นชัก ดูโจรรายนี้เหมือนมีวิชาเวทมนตร์ แปลงร่างเป็นนากินียังไงยังงั้น  ตร.ทราบว่าเป็นคนแถวนั้นจึงเข้าไปหาแต่กลับไม่พบตัวแต่อย่างใด สงสัยเอาเงิน 2000 บาทไปใช้จ่ายอยู่

นายอภิรัฐฯ เล่าว่า วันเกิดเหตุเมื่อคืนนี้ตนทำงานถึงเวลา 21.00 น. และนั่งต่อถึงประมาณ 22.00 น. จากนั้นได้กลับไปนอน ตอนดึกจึงเห็นคนมาขโมยเงิน ดูจากในภาพก็รู้ว่าเป็นใคร ผมรู้จักเขาและเคยให้ความช่วยเหลือมาตลอด ให้เงินใช้ ให้ข้าวกิน เพราะเห็นเป็นคนไม่มีพ่อแม่ รู้มาว่าโตมาจากสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าที่ จ.หนองคาย  จากนั้นก็ฝากให้ทำงานเป็นกระเป๋ารถ แต่ก็อยู่ได้ไม่นานมีเรื่องลักเล็กขโมยน้อยทรัพย์สินของผู้โดยสาร นึกว่าช่วยเหลือให้ข้าวกินแล้วจะเป็นคนดี แต่นี่ไม่ใช่  ซึ่งตอนแรกกะว่าจะไม่มาแจ้งความแต่ถ้าไม่มาแจ้งดำเนินการตามกฎหมายความเกรงว่าคนร้ายจะกลับมาก่อเหตุอดีกและเป็นปัญหาสังคมจึงมาแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว