เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



"ผู้ใหญ่บ้าน" แฉแหลก! พฤติกรรม "ตำรวจอุ้มรีดทรัพย์" ในประจวบฯ มีอยู่จริง


24 ก.ย. 2566, 19:27



"ผู้ใหญ่บ้าน" แฉแหลก! พฤติกรรม "ตำรวจอุ้มรีดทรัพย์" ในประจวบฯ มีอยู่จริง




วันที่ 24 ก.ย.66 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเมื่อเวลา 16.00 น. กรณีเกิดเหตุกลุ่มคนร้ายไม่ต่ำกว่า 3 คน อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจากภาค 7 ก่อเหตุอุ้มตัว นางพัชรี อายุ 48 ปี โดยการใช้ผ้าดำคลุมหัวแล้วอุ้มขึ้นรถเก๋งยี่ห้อ Honda สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนออกไปจากหมู่บ้าน หลังจากกลับไปส่งหลานที่โรงเรียนเมื่อช่วงเวลาประมาณ 08.30 น. ของวันที่ 20 กันยายนที่ผ่านมา ที่ผู้สื่อข่าวได้เคยนำเสนอไปก่อนหน้านี้แล้วนั้น

คืบหน้ากรณีนี้ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่ไปพูดคุยสอบถามความคิดเห็นกับผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ตำบลเกาะหลัก ซึ่งเป็นตำบลเดียวกับพื้นที่เกิดเหตุของผู้เสียหาย กรณีนี้ นายประจักษ์ สนสนิท ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 บ้านมะขามโพรง เปิดเผยว่า การกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับยาเสพติด จากการที่เคยสอบถามกับผู้เสียหายซึ่งเป็นลูกบ้านที่ถูกตำรวจจับไปแล้วและถูกปล่อยตัวออกมา ยืนยันว่ามีพฤติกรรมตำรวจที่กระทำเช่นนี้มีอยู่จริง โดยจะนำไปอยู่ห้องเซฟบางรายนำไปปล่อยครึ่งทางหลังจากที่มีการเจรจาได้เงินกันไปแล้ว ซึ่งข้อมูลเหล่านี้เคยได้ไปสอบถามกับญาติผู้ที่ถูกจับและตัวผู้ที่ถูกจับก็ยอมรับว่าเคลียร์เงินไปแล้ว โดยส่วนใหญ่ผู้ที่มาจับผู้เสพผู้ค้ายาเสพติดในหมู่บ้านมักจะไม่อ้างตัวหรอกว่าเป็นตำรวจ แต่คือตำรวจตัวแท้ๆเลย ซึ่งจังหวัดประจวบของเราเป็นอยู่เช่นนี้มานานแล้ว ซึ่งที่ทำๆกันอยู่ส่วนใหญ่พาไปเข้าเซฟเฮ้า เพื่อรอเงิน พอได้เงินแล้วก็ปล่อยตัวกลับ ไม่ได้ดำเนินคดีไม่ได้ส่งของกลาง บางกรณีพาขึ้นรถไปคุยเรื่องเงินเรื่องทอง พอคุยกันลงตัวก็ปล่อยลงรถระหว่างทางไม่เคยดำเนินคดี ส่วนรายไหนที่ถูกดำเนินคดีก็คือไม่ได้มีการเคลียร์เงิน เป็นอยู่เช่นนี้มาหลายสิบปี และไม่มีใครเอาจริง เพราะฉะนั้นยาเสพติดจึงอยู่แบบนี้ไม่ยอมหมดไปสักทีมีทุกหมู่บ้านทั่วไป โดยเฉพาะที่หมู่บ้านมะขามโพรงแห่งนี้ ขายกันเต็มบ้านเต็มเมืองแทบทุกบ้าน เด็กวัยรุ่นเสพกันแทบทุกคน เสพกันจนหลอน และรู้มาว่าแก๊งที่เข้ามาทำงานในพื้นที่หมู่บ้านแห่งนี้บ่อยๆ ส่วนใหญ่จะเรียกรับเงิน เมื่อเรียกรับเงินได้ไปแล้วบางทีมีให้ผู้ต้องหาเอายากลับมาขายต่อในหมู่บ้านแล้วเก็บส่วยแบ่งกัน ส่วนใหญ่ผู้ที่ขายยาและตำรวจจะปิดข่าวกันไม่แจ้งให้ผมรู้ มารู้อีกทีเมื่อเขาดำเนินการตกลงเจรจาผลประโยชน์กันเสร็จแล้ว ส่วนคนที่ถูกจับดำเนินคดีเมื่อกลับออกมาแล้วก็กลับมาทำผิดอีกผมเคยเตือนเคยป้องปรามแต่ไม่มีใครเคยรับฟัง โดยส่วนตัวเชื่อว่าพฤติกรรมของตำรวจลักษณะนี้มีอยู่จริง

 



ด้านนายทศพล เทศทอง อายุ 64 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้านดอนเหียง หมู่ 10 ตำบลเกาะหลัก ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่เกิดเหตุ เปิดเผยว่า พฤติกรรมเจ้าหน้าที่นอกรีดแบบนี้ถามว่าชาวบ้านจะอยู่อย่างไร แบบนี้เหมือนเข้าข่ายอุ้มเรียกทรัพย์ หรือขูดรีด ซึ่งถ้าถามความคิดเห็นของตนผมมองว่าทำไม่ถูกต้อง ซึ่งการทำแบบนี้เป็นลักษณะเหมือนโจรในเครื่องแบบ อาศัยเครื่องแบบเป็นตำรวจแต่คือโจร โดยส่วนตัวเชื่อว่ามีตำรวจร่วมขบวนการด้วยแน่นอน แต่ไม่ทราบว่ามีใครบ้างเพราะเคยได้ยินไม่ใช่รายเดียว ซึ่งในหมู่บ้านแห่งนี้ไม่เคยมีพฤติกรรมแบบนี้มานานเป็นปีแล้ว รายนี้เป็นรายแรกของหมู่บ้าน แต่ก่อนหน้านี้นานมาแล้วเคยมีชาวบ้านเดือดร้อนประเภทนี้หลายรายหลายเจ้า ชาวบ้านที่ถูกกระทำไม่มีสิทธิ์เรียกร้องเลย เพราะเขาเป็นชาวบ้านธรรมดา เรียกร้องก็เหมือนถ่มน้ำลายขึ้นฟ้ารดหน้าตัวเอง และชาวบ้านบางคนก็มองว่ารู้ว่าขี้อย่าเอาไม้เอามือไปแหย่เดี๋ยวจะเดือดร้อนภายหลัง สู้กู้หนี้ยืมสินให้เขาไปดีกว่าเพื่อตัดปัญหาทั้งที่ครอบครัวของตัวเองไม่มีจะกินอยู่แล้ว แต่ต้องไปกู้หนี้ยืมสินมาให้พวกตำรวจนอกรีตพวกนี้ ที่จริงตัวผมเองก็อยากจะให้พฤติกรรมพวกนี้หมดไปจากพื้นที่ ถ้าเจ้าหน้าที่ประพฤติปฏิบัติดีประชาชนก็อยู่อย่างเป็นสุข แต่ถ้าทำลักษณะนี้ประชาชนอยู่ไม่เป็นสุขหรอกต้องอยู่อย่างหวาดระแวง เช่น กรณีตอนผู้กำกับโจ้ดังเป็นกระแส ก็ทำให้พฤติกรรมเหล่านี้เงียบไปพักหนึ่ง แต่ตอนนี้เริ่มมีอีกแล้ว

 







Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.