จากกรณีที่เกิดดราม่าบนโลกออนไลน์ กับการที่ร้านกาแฟดึงปลั๊กไฟโน้ตบุ๊กของลูกค้า ซึ่งต่อมาเจ้าของร้านได้ออกมาบอกว่า ลูกค้ารายนี้สั่งกาแฟ 1 แก้ว 40 บาท ส่วนลูกค้าก็บอกว่า ตนสั่งอาหาร 200 บาทขึ้นไปทุกครั้งเวลาไปนั่งที่ร้านนี้ แต่วันเกิดเหตุตนสั่งกาแฟแก้วเดียว กะว่าจะสั่งเพิ่ม แต่ดันถูกไล่เสียก่อน     

 ลูกค้า เผยว่า ตนมาที่คาเฟ่ดังกล่าวตอน 14.00 น. อยู่ที่ร้านจนกระทั่งเวลา 16.00 น. แต่กลับถูกแม่เจ้าของร้านมาถอดพัดลม ถอดปลั๊กโน้ตบุ๊กจนโน้ตบุ๊กดับ แล้วเอาพัดลมไปให้ลูกค้าคนอื่นแทน ตนก็เลยถามว่าไม่ให้ใช้แล้วหรือ แม่เจ้าของร้านก็บอกว่าใช่ ตนจึงถ่ายคลิปเอาไว้ จ่ายเงิน แล้วออกจากร้านทันที 

 

   
   ตนยอมรับว่าวันเกิดเหตุ ตนสั่งกาแฟแก้วเดียว แต่ตั้งใจว่าจะสั่งอาหารเพิ่ม แต่กลับเกิดเหตุการณ์นี้ก่อน ปกติเวลามาร้าน ตนจะสั่งกาแฟร้อน เครื่องดื่มเย็น สั่งเซตไส้กรอก 99 บาท ถ้ามีเพื่อนมาด้วยก็สั่งเพิ่ม ปกติตนมาที่ร้านนี้ เอาโน้ตบุ๊กมานั่งทำงาน ขออนุญาตทางร้าน ทางร้านก็เอาปลั๊กพ่วงมาต่อให้ แต่ต่อมาตนหายไปต่างจังหวัด 6 เดือน และกลับมาที่ร้านนี้เหมือนเดิมเพราะติดใจบรรยากาศร้าน ซึ่งปกติเวลาตนมานั่ง ก็จะนั่งทำงาน 3-4 ชม. ไม่เคยถึง 6 ชม. และจากนี้คงไม่ไปที่ร้านนี้อีกแล้ว  

 

 

  ด้านเจ้าของคาเฟ่ เผยว่า ลูกค้าคนนี้มาที่ร้านตอน 12.00 น. เอาโน้ตบุ๊กมาเสียบปลั๊ก จ่อพัดลมเข้าหาตัว ทั้งที่มีลูกค้าคนอื่น นั่งนาน 5-6 ชม. และสั่งกาแฟแค่แก้วเดียว โดยเป็นกาแฟเอสเพรสโซ่ ราคา 40 บาท ซึ่งเป็นราคาต่ำสุด จนคุณแม่ของตนไม่พอใจ จึงเข้าไปต่อว่า

          ทั้งนี้ ปกติตนจะดูแลร้าน แต่วันนั้นตนไปธุระ คุณแม่ก็ดูแลร้านแทน ซึ่งลูกค้าคนนี้มาใช้บริการที่ร้านประจำ แต่จะชอบมานั่งนานจนลูกค้าคนอื่นไม่มีโต๊ะนั่ง เขาไม่มา 6 เดือนแล้ว กลับมาคราวนี้ก็มีพฤติกรรมเหมือนเดิม มาใช้บริการแต่ละครั้ง ครั้งละไม่ต่ำกว่า 6 ชม. สูงสุดถึง 9 ชม. แต่สั่งแค่กาแฟร้อนหรือสลัด

          ตนยอมรับว่าแม่ทำรุนแรงเกินไป ตนก็เสียใจและเป็นความผิดของร้านส่วนหนึ่ง ซึ่งจากนี้ทางร้านจะปรับปรุงกติกาการใช้ไฟของร้าน ซึ่งลูกค้าที่มาสามารถใช้ไฟได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายแน่นอน