เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



"ดีเอสไอ" ค้นสถานพยาบาล 3 แห่ง จับขบวนการจัดหาหญิงไทยอุ้มบุญ ส่งทารกออกนอกประเทศ


1 ก.ย. 2566, 15:05



"ดีเอสไอ" ค้นสถานพยาบาล 3 แห่ง จับขบวนการจัดหาหญิงไทยอุ้มบุญ ส่งทารกออกนอกประเทศ




นายอัษฎาวุธ ศรีปิตา ผู้ช่วยโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ และร้อยตำรวจเอก ทินวุฒิ สีละพัฒน์ ผู้อำนวยการกองกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ แถลงความคืบหน้าคดีพิเศษ กรณีขบวนการลักลอบจัดหาหญิงไทยเพื่อรับจ้างตั้งครรภ์แทน หรือ อุ้มบุญ  ให้กับผู้ว่าจ้างชาวต่างประเทศ ที่มีลักษณะเป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติในจังหวัดหนองคาย โดยคดีนี้สืบเนื่องมาจากการที่ดีเอสไอเข้าช่วยเหลือเด็กชายแทนไท เด็กที่น่าเชื่อได้ว่าเกิดจากการอุ้มบุญผิดกฎหมาย แล้วถูกนำมาฝากเลี้ยงไว้กับกลุ่มบุคคลในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการและกรุงเทพฯ ซึ่งเมื่อช่วยเด็กได้แล้ว ก็สืบสวนขยายผลต่อ จนนำไปสู่การเข้าตรวจค้นสถานพยาบาล 3 แห่งในพื้นที่กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 23 ส.ค.66

เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ สนธิกำลังกับสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข ตรวจค้นสถานพยาบาล 3 แห่ง ได้แก่



1.สถานพยาบาลย่านถนนงามวงศ์วาน เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร จากการสืบสวนสอบสวน พบว่า มีนายแพทย์ผู้ให้บริการเทคโนโลยีการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์มีส่วนเกี่ยวข้องในคดีนี้  และเป็นแพทย์ประจำศูนย์รักษาผู้มีบุตรยากในสถานพยาบาลดังกล่าว โดยได้ทำการตรวจร่างกายก่อนตั้งครรภ์และรับฝากครรภ์และเป็นสถานที่คลอดบุตรแก่หญิงอุ้มบุญผิดกฎหมาย ในช่วงระหว่างปี 2561-2563 ผลการตรวจค้นพบประวัติ หญิงอุ้มบุญผิดกฎหมายจำนวนหลายราย

2.สถานพยาบาลย่านถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงบางกะปิ จากการสืบสวนสอบสวน พบว่า สถานพยาบาลแห่งนี้มีแพทย์ผู้ให้บริการเทคโนโลยีการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้องในคดีนี้เข้าไปทำงาน Part time ในสถานพยาบาลดังกล่าว ผลการตรวจค้นพบเอกสารข้อมูลไข่และตัวอ่อนในการดูแลของแพทย์ผู้ให้บริการในคดี 

3.สถานพยาบาลย่านถนนเพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร จากการตรวจสอบเส้นทางการเงิน พบความเชื่อมโยงกับนายแพทย์ที่เกี่ยวข้องในคดี และมีหญิงอุ้มบุญ มาตรวจร่างกายก่อนไปฉีดตัวอ่อนที่ต่างประเทศ  ผลการตรวจค้น พบหนังสือเดินทางของหญิงอุ้มบุญและเด็กที่ถูกอุ้มบุญ รวมทั้งยัง พบว่า สถานพยาบาลแห่งนี้ ยังไม่ได้รับอนุญาตรับรองมาตรฐานให้บริการด้านเทคโนโลยีการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์


หลังจากนั้น ในวันที่ 28 สิงหาคม 2566  กรมสอบสวนคดีพิเศษ สนธิกำลังกับ หน่วยปฏิบัติการพิเศษภูธรจังหวัดหนองคาย จับกุม นายสุเนตร ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา ในข้อหามีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติและร่วมกันดำเนินการให้มีการตั้งครรภ์แทนเพื่อประโยชน์ทางการค้า และตรวจค้นบ้านพักของนายสุเนตร ในพื้นที่จังหวัดหนองคาย โดยอาศัยอำนาจตามหมายค้นศาลจังหวัดหนองคาย พบบัญชีรายชื่อหญิงที่รับจ้างอุ้มบุญผิดกฎหมายและบัญชีรายได้จากการเป็นนายหน้าจัดหาหญิงมาทำหน้าที่อุ้มบุญ  ซึ่งนายสุเนตร เป็นหนึ่งในขบวนการจ้างอุ้มบุญข้ามชาติ มีหน้าที่จัดหาหญิงชาวไทยมารับจ้างอุ้มบุญให้ชาวต่างชาติ จนมีทรัพย์สินเป็นที่ดินกว่า 100 ไร่

ทั้งนี้ การอุ้มบุญ สามารถทำได้ หากได้รับการอนุญาตตามขั้นตอนของกฎหมาย ซึ่งมีเงื่อนไขเพื่อคนที่มีบุตรยาก ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ พ.ศ. 2558  แต่ห้ามไม่ให้ดำเนินการตั้งครรภ์แทนเพื่อประโยชน์ทางการค้า หากฝ่าฝืน ทั้งตัวคนสั่งจ้าง นายหน้า นายแพทย์ นักวิทยาศาสตร์ หญิงอุ้มบุญและผู้เกี่ยวข้องในขบวนการ จะมีความผิดทางอาญาและต้องรับผิดตามกฎหมาย

 ปัญหาการอุ้มบุญผิดกฎหมายก่อให้เกิดปัญหาสังคมหลายอย่างตามมา ทั้งการเป็นตลาดการค้ามนุษย์ ซึ่งปลายทางของเด็กที่เกิดจากการอุ้มบุญ อาจถูกนำไปค้าอวัยวะ ค้าประเวณี หรืออุตสาหกรรมทางเพศ  ในหลายกรณีที่เด็กเกิดมามีความบกพร่องทางร่างกาย ก็จะถูกทอดทิ้งอย่างไร้มนุษยธรรม ล้วนแล้วแต่เป็นการกระทำที่กระทบต่อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษจะกวาดล้างขบวนการอุ้มบุญที่ผิดกฎหมายและดำเนินการกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำผิดอย่างเด็ดขาด






Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.