วันนี้ ( 28 ส.ค.66 ) ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทน พร้อมด้วยนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการจัดตั้งคณะรัฐมนตรี  โดยยืนยันว่า โผ ครม. นิ่งแล้ว อยู่ในขั้นตอนการเตรียมส่งตรวจสอบคุณสมบัติ

นพ.ชลน่าน กล่าวตอบในคำถามที่ว่า สส.เพื่อไทย สส.อีสาน มีความพึงพอใจสำหรับการจัดสรรตำแหน่งต่างๆ ในโควต้ารัฐมนตรีระหว่างพรรคร่วมหรือไม่ ต้องเรียนด้วยความเคารพ พรรคเพื่อไทยมีสมาชิกเกือบทุกพื้นที่ และมี ส.ส.ที่รับปัญหามาจากพี่น้อง ประชาชน เรารับรู้รับทราบในความต้องการเหล่านี้มาโดยตลอดว่าสิ่งที่เขาต้องการและอยากได้ พรรค พท.ในฐานะแกนนำรัฐบาลควรดูแลกระทรวงไหนอย่างไร โดยเฉพาะเน้นกระทรวงทางด้านเศรษฐกิจปากท้องประชาชน ที่เกี่ยวเนื่องกับความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนมากที่สุด ก็เป็นข้อเสนอมาตลอด แต่ว่าเราอยู่ในฐานะที่เป็นพรรคที่ต้องมีพรรคร่วมรัฐบาล การทำงานร่วมกัน การเจรจาต่อรองเพื่อเป้าหมายหลักร่วมกัน จะต้องนำเข้ามาพิจารณาร่วมด้วย ในหลักการเหล่านี้ อาจจะทำให้บางกระทรวงที่เราคาดหวังว่าเราอยากจะได้ทำ อยากจะทำหน้าที่แทนพี่น้องประชาชน อาจจะไม่เป็นไปตามความต้องการ ก็ต้องกราบต้องขออภัย เพราะเราในฐานะที่ไม่ได้เป็นเสียงข้างมากเด็ดขาด เราจำเป็นต้องมีพรรคร่วมรัฐบาล เราเองมีแค่ 141 เสียงเอง เราต้องหาเพิ่มอีกมากมาย กว่าจะเป็น 314 ได้ ทำให้มีข้อจำกัด เรื่องนี้เองเลยทำให้ความประสงค์ความต้องการของพี่น้อง สส. หรือ พี่น้องประชาชนอาจจะไม่เป็นไปตามความคาดหวังนัก อย่างไรก็ตาม เราเป็นรัฐบาลภายใต้การนำของท่านนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ เรามั่นใจว่านโยบายที่เราได้มีการพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาล เราจะใช้นโยบายของพรรคเพื่อไทยเป็นแกนหลักในการขับเคลื่อน ฉะนั้น รัฐมนตรีไม่ว่าจะมาจากพรรคใดก็แล้วแต่ ได้มีข้อผูกพันตรงนี้ไว้แล้ว เอานำนโยบายของพรรคอื่นเข้ามาเสริมเติมแต่งให้เข้มแข็งมากขึ้น ฉะนั้นเขาก็มีหน้าที่ขับเคลื่อนนโยบายของพรรคเพื่อไทยเราลงไปสู่พี่น้องประชาชน ตรงนี้ก็จะเป็นสิ่งที่ชดเชยทดแทนได้

ขณะที่โผ ครม.ในเก้าอี้ รมว.กลาโหม ยังไม่นิ่ง นพ.ชลน่าน ระบุว่า ยังไม่สิ้นสุด ยังไม่ถือเป็นจุดสุดท้าย ตนยังตอบไม่ได้ว่าจะมีพลเรือนหรือคนที่มียศ มีตำแหน่งหรือไม่ แต่ในยุคใหม่กลไกการบริหารราชการแผ่นดิน ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งใดในฐานะที่เป็นผู้บริหารก็สามารถที่จะบริหารราชการแผ่นดินในกระทรวงนั้นๆ ให้เป็นไปตามนโยบายรัฐ ให้เป็นไปตามนโยบายรัฐบาล ตนเชื่อว่าคงไม่เป็นประเด็น โดยเฉพาะในรัฐบาลของเราเป็นนโยบายที่เราสร้างขึ้นมา เป็นรัฐบาลที่ต้องการสร้างความสมานฉันท์ ความปรองดอง ลดความขัดแย้ง ทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากัน เชื่อว่าไม่ว่าจะเป็นพลเรือน ทหาร หรือตำรวจก็แล้วแต่ จะเข้ามาช่วยกันทำงาน เพื่อขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมายของประเทศและประชาชน