เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



คุมตัวลูกสาวฝากขัง ผู้ต้องสงสัยยิงพ่อดับคาสวนทุเรียน อ้างให้การในชั้นศาล


24 ก.ค. 2566, 17:13



คุมตัวลูกสาวฝากขัง ผู้ต้องสงสัยยิงพ่อดับคาสวนทุเรียน อ้างให้การในชั้นศาล




จากเหตุการณ์ เมื่อเวลา 16.30 น.วันที่ 23 ก.ค.66 พ.ต.ต.มาโนช ปลอดขันเงิน สว.(สอบสวน)สภ.หลังสวน ได้รับแจ้งเหตุมีคนถูกยิงเสียชีวิตอยู่ภายในสวนทุเรียน หลังบ้านเลขที่ 222 หมู่ 18 ต.บ้านควน อ.หลังสวน จ.ชุมพร จึงแจ้งให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.ฉลาด พลนาการ ผกก.สภ.หลังสวน ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน จ.ชุมพร ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน สภ.หลังสวนและหน่วยกู้ชีพกู้ภัย สมาคมพุทธประทีป อ.หลังสวน จ.ชุมพร

ที่เกิดเหตุอยู่ห่างถนนสายเอเชีย 41 เข้าไปในถนนสายรองบ้านหนองโพธิ์ ประมาณ 200 เมตร เจ้าหน้าที่พบผู้เสียชีวิตสวมเสื้อเชิ้ตลายสีชมพู กางเกงวอร์มสีน้ำเงิน ที่บริเวณเอวคาดผ้าขาวม้าสีส้มตัดแดง ทราบชื่อภายหลังคือ นายประสิทธิ์ ลิ่มภัทรพงศ์ อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 222 หมู่ที่ 18 ต.บ้านควน อ.หลังสวน จ.ชุมพร สภาพถูกอาวุธปืนยิงเข้าบริเวณหน้าอก และหน้าท้อง จำนวน 4 นัด นอนหงายอยู่กลางสวนทุเรียนหลังบ้านของผู้ตาย ใกล้กันเจ้าหน้าที่พบอาวุธปืน ขนาด 9 มม. ตกอยู่ในพงหญ้า จำนวน 1 กระบอก และยังพบปลอกกระสุนตกอยู่ห่างศพ จำนวน 4 ปลอก และพบกระสุนชนิดเดียวที่ยังไม่ได้ยิงอีก 1 นัด ตกอยู่ใต้โคนต้นทุเรียน จึงได้เก็บรวบรวมไว้เป็นพยานหลักฐาน 

จากการสอบถาม นางชลิตา ลิ่มภัทรพงศ์ อายุ 58 ปี ภรรยาของผู้ตาย ทราบว่าตนเองได้ทำงานอยู่ภายในบ้าน ส่วนนายประสิทธิ์ผู้ตาย ได้เข้าไปในสวนหลังบ้าน ซึ่งมีอยู่ประมาณ 40 ไร่ ซึ่งเป็นสวนยาง สวนปาล์ม และสวนทุเรียน 10 ไร่ โดยสามีชอบพกอาวุธปืนสั้นเข้าไปในสวนเป็นประจำ และวันเกิดเหตุสามีก็พกอาวุธปืนเข้าไปในสวน ตนเองได้ยินเสียงก็ไม่ได้แปลกใจอะไรถือเป็นปกติ จนกระทั่งช่วงเย็นได้เดินเข้าไปตามเพราะเห็นสามีหายไปนานเกิน  ก็ได้พบนายประสิทธิ์สามีถูกยิงนอนเสียชีวิตอยู่กลางสวนทุเรียนแล้ว จึงได้แจ้งให้ตำรวจมาตรวจสอบดังกล่าว

ขณะเดียวกันทางตำรวจได้สอบสวนพยานแวดล้อม ทราบว่าผู้ตายมักจะชอบยิงปืนบ่อยครั้ง จนชาวบ้านใกล้เคียง รู้สึกหวาดผวาและเกรงกระสุนจะตกมาใส่ได้รับอันตราย นอกจากนั้นผู้ตายมักมีปากเสียงทะเลาะกับลูกสาวชนิดเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาตลอด และช่วงเกิดเหตุลูกสาวมาหาผู้ตายแล้วหลังเกิดเหตุได้หายตัวไป

ความคืบหน้าเมื่อกลางดึกวันที่ 24 ก.ค.66 ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ธีรนันท์ ชุมวรฐายี รอง ผกก.ส.ส.สภ.หลังสวน ได้ไปนำตัว น.ส.จุฑาพร ลิ่มภัทรพงศ์ อายุ 35 ปี ลูกสาวผู้ตาย ขณะพักอยู่ในอพาร์สเม้นท์อยู่ในย่านหรูกลางตัวเมืองชุมพร พร้อมรถเก๋งสอร์ต BMW รุ่น Z4 S Drive 30 i ที่ขับไปหาพ่อช่วงเกิดเหตุ มาให้พนักงานสอบปากคำ โดยมี นางชลิตา ลิ่มภัทรพงศ์ อายุ 58 ปี ผู้เป็นแม่มาร่วมอยู่เป็นเพื่อนด้วย จากการสอบปากคำน.ส.จุฑาพร จนกระทั่งเวลา 12.00 น.วันเดียวกัน ไม่ยอมปริปากพูดใดๆทั้งสิ้น อ้างเพียงว่าจะไปให้การในชั้นศาลอย่างเดียว 

ต่อมา น.ส.จุฑาพร และ นางชลิตา ผู้เป็นแม่ออกจากห้องสอบสวนมาพบญาติที่มาเยี่ยมและทำธุระส่วนตัว ผู้สื่อข่าวได้พยาบามสอบถาม น.ส.จุฑาพร ถึงกรณีที่เกิดขึ้น น.ส.จุฑาพรได้ส่ายหน้าพร้อมกับบอกว่าไม่มีอะไรจะพูดแล้วรีบเดินเข้าห้องสอบสวน 

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้สอบถามนางชลิตาผู้เป็นแม่บอกว่าก่อนเกิดเหตุลูกสาวได้ขับรถเก๋งมาที่บ้านกือบบ่าย 2 โมง ส่วนตนอยู่ในบ้านไม่เห็นเหตุการณ์ใด ระหว่างผู้สื่อข่าวสอบถามนางชลิตา ปรากฏว่า น.ส.จุฑาพร ได้ย้อนออกมาเรียกผู้เป็นแม่ให้เข้าไปในห้องสอบสวนทันที

ช่วงบ่ายวีนเดียวกันตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.ชุมพร ได้เดินทางมาเก็บลายนิวมือแฝงภายในรถเก๋งสอร์ต BMW รุ่น Z4 S Drive 30 i ที่ตำรวจตรวจยึดไว้ที่ สภ.หลังสวน เพื่อประกอบสำนวนคดี

จากแนวทางการสืบสวนสอบสวนทราบว่า น.ส.จุฑาพร เป็นคนไม่พูดและไม่สุงสิงกับใคร ที่ผ่านมาไม่ค่อยได้อยู่บ้านเนื่องจากไปประกอบธุรกิจทำร้านอาหารอยู่ใน อ.ปะทิว จ.ชุมพร แต่ไม่ประสบความสำเร็จต้องปิดกิจการไป โดยเช่าอพาร์ทเม้นท์หรูอยู่ในย่านกลางเมืองชุมพร โดยชอบทำตัวเป็นไฮโซ และได้เช่ารถเก๋งสปอร์ต BMW รุ่น Z4 S Drive 30 i มาใช้เสียค่าเช่าวันละ 1 หมื่นบาท จ่ายเป็นรายสัปดาห์ ๆ ละ 7 หมื่นบาท โดยเช่ามานานหลายเดือนแล้ว ที่ผ่านมาชอบไปขอเงินจากแม่มาใช้เป็นประจำ และมักจะมีปากเสียงกับผู้เป็นพ่อบ่อยครั้งที่ลูกสาวชอบมาขอเงิน จนกลายเป็นไม้เบื้อไม้เมากันมาตลอดที่ลูกสาวกลับบ้าน 

กระทั่งวันเกิดเหตุ น.ส.จุฑาพร ขับรถเก๋งกลับมาที่บ้านช่วงบ่าย หลังเกิดเหตุพบศพนายประสิทธิ์ ถูกยิงตายอยู่ในสวนทุเรียนหลังบ้านดังกล่าว

ต่อมาได้มีพนักงานบริษัทเช่ารถเดินทางมาที่ สภ.หลังสวน เพื่อมาติดตามขอนำรถเก๋ง BMW ที่ น.ส.จุฑาพร ได้เช่ามาใช้ เนื่องจากครบกำหนดเป็นวันสุดท้ายของการเช่าในวันนี้ โดยพนักงานทางบริษัท ได้ให้ข้อมูลว่า ผู้เช่าได้เช่ารถมานานแล้ว และจะเช่าเป็นรายสัปดาห์ โดยลูกค้ารายนี้ เป็นลูกค้าชั้นดี ไม่ติดค้างเงินค่าเช่าเลย ซึ่งจะจ่ายเป็นรอบๆ ละ 7 หมื่นบาทต่อสัปดาห์ และลูกค้ารายนี้เช่าคันนี้มาอย่างต่อเนื่อง มาเป็นเวลานานหลายเดือนแล้ว ทางบริษัทจึงได้เดินทางมาชี้แจงและจะขอนำรถกลับต่อไป

ด้าน พ.ต.อ.ฉลาด พลนาการ ผกก.สภ.หลังสวน เปิดเผยว่าเบื้องต้นแม้ผู้ต้องสงสัยจะไม่พูดอะไร จากการสืบสวนสอบสวนพบว่า น.ส.จุฑาพร ขับรถออกมาจากอพาร์ทเม้นในตัวเมืองชุมพร กลับมาที่บ้านใน อ.หลีงสวน เพียงคนเดียว จากการรวบรวมพยานหลักฐานเบื้องต้นเชื่อว่า น.ส.จุฑาพร น่าจะมีปากเสียงกับผู้เป็นพ่อ แล้วเกิดแย่งปืนกันขึ้น เนื่องจากเป็นปืนระบบออโตเมติกอัตโนมัติ แล้วลั่นใส่กลางหน้าอก 2 นัด หน้าท้อง 1 นัด และหน้าขาขวากระสุนทะลุใต้เข่า 1 นัด 

พ.ต.อ.ฉลาด เปิดเผยว่าพนักงานสอบสวนได้ตรวจยึดเสื้อผ้า น.ส.จุฑาพร และของผู้ตาย รวมทั้งอาวุธปืน ส่งไปกองพิสูจน์หลักฐานภาค 8 เพื่อตรวจเก็บดีเอ็นเอ และลายนิ้วมือแฝง ซึ่งจะรู้ผลเร็วๆ ส่วนข้อหาเบื้องแจ้งข้อกล่าวหา น.ส.จุฑาพร ฐานกระทำการโดยคนตายประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ส่วนข้อหาอื่นหากพบพยานหลักฐานเพิ่มก็สามารถแจ้งเพิ่มในภายหลังได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าต่อมาเวลา 15.00 น. ภายหลังสอบปากคำเสร็จตำรวจได้คุมตัว น.ส.จุฑาพร ไปขออำนาจศาลจังหวัดหลังสวน ฝากขังต่อไป ระหว่างนั้นผู้สื่อข่าวพยายามสอบถาม น.ส.จุฑาพร ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่ น.ส.จุฑาพร ไม่พูดอะไรทั้งสิ้น เดินขึ้นรถตำรวจแบบเงียบเฉยไม่สนใจเสียงที่ผู้สื่อข่าวถามแต่อย่างใด





คำที่เกี่ยวข้อง : #ยิงพ่อ  




Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.