วันที่ 12 กรกฎาคม 2566 จากกรณีกล้องวงจรปิดจับภาพคนร้ายวัยกลางคน เป็นชายใส่เสื้อเชิ้ต กางเกงขาสั้น รองเท้าแตะ ถือถุงพลาสติกและไฟฉาย เดินไปกราบขอขมารูปปั้นหลวงพ่อคูณที่ วัดบ้านไร่ ตำบลกุดพิมาน อำเภอด่านขุนทด  จังหวัดนครราชสีมา ก่อนจะได้วนเวียนดูลาดลาวพักใหญ่ ก่อนที่จะก่อเหตุทุบตู้บริจาค เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดช่วงเวลา 00.15 น.กลางดึกที่ผ่านมา ล่าสุดพ.ต.อ.วรวรรธน์ ขันเครือ ผกก.กก.สส.ภ.จว.นครราชสีมา พ.ต.ท.วิชานนท์ บ่อพิมาย รอง.ผกก.สส.ภ.จว.นครราชสีมา ได้สั่งการให้ร.ต.อ.ชาตรี ไชยชนะ รอง สว.กก.สส.ภ.จว.นครราชสีมา นำกำลังชุดสืบสวนเข้าจับกุมคนร้ายดังกล่าวทราบชื่อคือนายรัชธาร แสงแก้ว อายุ 40 ปี ชาวจังหวัดศรีษะเกษ โดยได้ไปกบดานที่บ้านเลขที่ 92 ถนนสามเสน แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร ซึ่งทางผู้ก่อเหตุสารภาพสิ้นนำเงินไปเที่ยวเตร่และเก็บเงินไว้ส่วนหนึ่งจำนวน 2 หมื่น ก่อนเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ควบคุมตัวไปที่สภ.ด่านขุนทดและขอขมาต่อหน้ารูปปั้นหลวงพ่อคูณ ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีในข้อหาลักทรัพย์ในเวลาต่อมา

โดยนายรัชธาร แสงแก้ว อายุ 40 ปี ชาวจังหวัดศรีษะเกษ สารภาพว่าในวันที่ก่อเหตุตนได้เดินทางไปที่จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งจะไปหางานทำและตนไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่งได้รับจ้างไปทั่วหลายจังหวัด ตนจึงได้เข้าไปวัดบ้านไร่ ซึ่งจะเดินทางไปกราบหลวงพ่อคูณ แต่ตอนเข้าไปตนเห็นว่ามีตู้บริจาคอยู่หลายตู้จึงอดใจไม่ไหวเพราะมีเงินเยอะ จึงได้เข้าไปมาทุบตู้ไปตอนกลางดึก หลังจากได้เงินเสร็จตนก็ได้เดินทางมาหลบหนีอยู่ที่จังหวัดกรุงเทพฯ ตนสารภาพว่าไม่มีงานและไม่มีเงิน จึงได้ก่อเหตุขโมยของตามที่ต่างๆแบบนี้ ซึ่งเงินที่ได้ไปจำนวน 5 หมื่น ตนก็ได้นำไปเที่ยวและกินจำนวนนึง ซึ่งตอนนี้เหลือเงินอยู่ 2 หมื่นบาทเก็บไว้ในบัญชีธนาคาร สำหรับนายรัชธาร แสงแก้ว อายุ 40 ปี เคยต้องโทษคดีลักทรัพย์ในพื้นที่สภ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ เมื่อปี 2561 ที่ผ่านมาอีกด้วย