เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



กทม.ดำเนินการรื้อย้ายสิ่งปลูกสร้าง รุกล้ำริมคลองผดุงกรุงเกษม


3 ก.ค. 2566, 14:13



กทม.ดำเนินการรื้อย้ายสิ่งปลูกสร้าง รุกล้ำริมคลองผดุงกรุงเกษม




วันนี้ ( 3 ก.ค.66 ) เวลา 09.00 น. นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ติดตามการรื้อย้ายสิ่งปลูกสร้างที่รุกล้ำริมคลองผดุงกรุงเกษมในพื้นที่เขตปทุมวัน โดยมี นายศุภกฤต บุญขันธ์ ผู้อำนวยการสำนักเทศกิจ นายวรชล ถาวรพงษ์ ผู้อำนวยการเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย นางสาวสุขวิชญาณ์ นสมทรง ผู้อำนวยการเขตปทุมวัน พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่สำนักเทศกิจ สำนักงานเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย สำนักงานเขตปทุมวัน สำนักงานเขตดุสิต สำนักการโยธา สถานีตำรวจนครบาลในพื้นที่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่และให้ข้อมูล 

รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า การจัดระเบียบผู้ค้าในพื้นที่สาธารณะนั้น ที่ผ่านมากรุงเทพมหานครใช้วิธีการเจรจาสร้างความเข้าใจกับผู้ค้า การที่ผู้ค้าใช้พื้นที่สาธารณะทำการค้าขายนั้น จะต้องไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชนผู้ใช้พื้นที่ทางเท้าในการเดินทางสัญจร ประชาชนจะต้องได้รับความสะดวกและมีความปลอดภัย ปัจจุบันกรุงเทพมหานครอยู่ระหว่างดำเนินการปรับปรุงภูมิทัศน์ริมคลองผดุงกรุงเกษม เพราะฉะนั้นผู้ค้าที่ทำการค้าอยู่บริเวณดังกล่าว จึงจำเป็นต้องออกจากพื้นที่ซึ่งมีการก่อสร้างปรับปรุงภูมิทัศน์ เพื่อให้การดำเนินงานปรับปรุงภูมิทัศน์เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ในอนาคตเมื่อการปรับปรุงแล้วเสร็จ บริเวณ 2 ฝั่งคลองจะมีสภาพสวยงาม หลังจากที่กรุงเทพมหานครมีการหารือร่วมกันในการจัดระเบียบผู้ค้าแล้ว จึงต้องมีการเจรจากับผู้ค้าพร้อมทั้งจัดหาสถานที่ เพื่อให้ผู้ค้าได้ไปทำการค้าในสถานที่ที่เหมาะสม ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา กรุงเทพมหานครได้ดำเนินการจัดระเบียบผู้ค้าไปแล้ว จากเดิมมีจุดทำการค้า 791 จุด คงเหลือ 692 จุด โดยได้มีการเจรจาขอให้ยกเลิก รวมถึงจัดหาสถานที่ใหม่ให้ผู้ค้าได้เข้าไปทำการค้าในพื้นที่เอกชนและพื้นที่ซึ่งกรุงเทพมหานครจัดหาไว้ให้ 

ผู้อำนวยการเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กล่าวด้วยว่า การจัดระเบียบผู้ค้าในบริเวณนี้ คือตลาดโบ๊เบ๊ ตลาดมหานาค จะมีพื้นที่เชื่อมต่อกัน 3 เขต เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย เขตปทุมวัน และเขตดุสิต ที่ผ่านมาสำนักการโยธาได้เข้ามาปรับปรุงภูมิทัศน์ แต่ยังมีผู้ค้าในพื้นที่บางจุดมาเจราจรต่อรอง ซึ่งทางเขตฯ ก็รับฟัง ดึงระยะเวลามา 6-7 เดือนจนถึงวันนี้ ซึ่งการปรับปรุงภูมิทัศน์ใกล้จะแล้วเสร็จแล้ว เหลืออยู่เพียงบางส่วนที่ยังดำเนินการไม่ได้ อีกทั้งทางเขตฯ ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนในการใช้พื้นที่ทางเท้า การตั้งวางสิ่งของกีดขวางทางเท้า และความสกปรก โดยทางเขตฯ ได้ประชาสัมพันธ์ไปล่วงหน้าเพื่อให้ผู้ค้ารับทราบถึงการเข้าปรับปรุงพื้นที่ ซึ่งผู้ค้าในบริเวณดังกล่าวให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี 

ผู้อำนวยการเขตปทุมวัน กล่าวว่า ทางสำนักงานเขตปทุมวัน ได้เจราจากับผู้ค้าที่ก่อสร้างอาคารรุกล้ำทั้ง 32 ราย มาระยะหนึ่งแล้ว ซึ่งปัจจุบันการปรับปรุงภูมิทัศน์ริมคลองผดุงกรุงเกษมเข้ามาถึงบริเวณอาคารที่รุกล้ำแล้ว จึงต้องดำเนินการรื้อถอนอาคารดังกล่าว ผู้ค้าทั้ง 32 ราย ยินดีให้ความร่วมมือในการรื้อย้ายออกไป เพื่อให้การปรับปรุงภูมิทัศน์แล้วเสร็จ มีความสวยงามทั้ง 2 ฝั่ง 

ผู้อำนวยการสำนักเทศกิจ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของสำนักเทศกิจได้จัดทำแผนในการดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อยของพื้นที่ตลอดแนว ตั้งแต่แยกกษัตริย์ศึกถึงแยกสะพานขาว รวมถึงจัดกำลังเจ้าหน้าที่เทศกิจจากสำนักเทศกิจและสำนักงานเขต จำนวน 22 หน่วย แบ่งเป็น 3 ผลัด ผลัดที่ 1 ตั้งแต่เวลา 06.00-14.00 น. ผลัดที่ 2 ตั้งแต่เวลา 14.00-22.00 น. และผลัดที่ 3 ตั้งแต่เวลา 22.00-06.00 น. เพื่อดูแลความความเป็นระเบียบเรียบร้อยตลอด 24 ชั่วโมง  

"การยกเลิกพื้นที่ทำการค้าบริเวณนี้ ทางสำนักงานเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย สำนักงานเขตปทุมวัน และสำนักงานเขตดุสิต ได้จัดหาสถานที่รองรับผู้ค้าไว้จำนวนหนึ่ง รวมถึงมีการพูดคุยกับผู้ค้าว่าในอนาคตที่จะมีการทำการค้าแบบถาวร รูปแบบจะต้องเป็นอย่างไร ซึ่งตลาดโบ๊เบ๊ได้มีการจัดตั้งมานานแล้ว รวมถึงตลาดมหานาคที่อยู่ใกล้เคียงกัน เพราะฉะนั้นบริเวณย่านนี้ถือว่าเป็นย่านที่เหมาะสมในการค้าขาย แต่การจัดระเบียบพื้นที่ก็ต้องทำควบคู่กันไปด้วย การที่กรุงเทพมหานครเข้าไปจัดระเบียบผู้ค้าในพื้นที่ต่าง ๆ นั้น ผู้อำนวยการเขตถือว่าเป็นบุคคลสำคัญ ในการลงพื้นที่เข้าไปเจรจากับผู้ค้าถึงเหตุผลสำคัญในการยกเลิก สร้างความเข้าใจที่ถูกต้องกับผู้ค้าให้เห็นถึงความสำคัญในการจัดระเบียบพื้นที่ รวมถึงมีการวางแผนด้วยว่าในอนาคตจะทำอย่างไร มีขั้นตอนอะไรบ้าง ซึ่งทางสำนักงานเขตทั้ง 3 แห่ง ได้มีการวางแผนไว้นานแล้ว" รองผู้ว่าฯ จักกพันธุ์ กล่าวในตอนท้าย









Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.