จากกรณีเพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้รีเทิร์นpart6ได้โพสต์คลิปวีดีโอชายผมยาวไม่สวมเสื้อเดินถือมีดขอดายหญ้าด้ามยาวเดินไปมาแล้วปรี่เข้าไปจะทำร้ายคนถ่ายคลิปจากนั้นได้ฟันดะทั้งเก้าอี้และประตูบ้านเสียหายพร้อมข้อความระบุว่า ทุกข์ชาวบ้าน ร้องเรียนตรวจสอบเจ้าหน้าที่และผู้นำชุมชนช่วยชาวบ้านด้วย ไล่ฟันกันแบบนี้อันตรายมากความปลอดภัยในชุมชนอยู่ที่ไหน เคยก่อเหตุแล้วยังก่อเหตุซ้ำซากอีก พิกัด..เหตุเกิดที่ ต.คลองกิ่ว อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี  ขอร้องเรียนเรื่องโดนทำลายทรัพย์สิน มีคนแถวบ้านนำมีดขอไล่ฟันค่ะต้องวิ่งหนีไปบ้านอื่นและยังนำมีดมาฟันที่รถด้านหลังและประตูบ้านตอนนั้นลูกสาวอยู่ในบ้านคนเดียวเค้านำมีดฟันที่ประตูบ้านจนจะพังจะทำร้ายลูกสาวและข่มขู่เอาเงินจนลูกสาวต้องหยิบเงินให้ไปและเพื่อนบ้านก็กลัวจะเอาเงินออกมาให้เหมือนกัน พอแจ้งตำรวจตำรวจบอกจับไม่ได้ค่ะไม่ใช่คดีจึงๆหน้าไม่สามารถจับได้ ทั้งๆที่มาทำลายทรัพย์สินแถมข่มขู่จะทำร้ายลูกสาวค่ะ ตำรวจบอกขายบ้านซื้อบ้านใหม่ไปเลยพอถามจะได้เรื่องมั้ยก็บอกไม่รู้ไม่ว่างรบกวนช่วยร้องเรียนออกสื่อให้หน่อยนะคะอยากให้มีคนมาตรวจสอบเรื่องนี้ ตอนนี้ที่บ้านกลัวมากเลยค่ะทั้งต้องระวังสินทรัพย์และชีวิตคนในบ้าน

ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้5มิถุนายน66เวลา10.30น.ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังที่เกิดเหตุพร้อมฝ่ายปกครองโดยนายชูศักดิ์ พรนิมิตรทรัพย์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่9ตำบลคลองกิ่วมาดูที่เกิดเหตุเข้าตรวจที่เกิดเหตุภายในซอยไก่ต้ม ซึ่งเป็นบ้านชั้นเดียว หมู่9 ตำบลคลองกิ่ว อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี เมื่อมาถึงได้พบกับ นางสาวดมิสา อายุ 21 ปี เจ้าของคลิปที่อยู่ในบ้านในขณะผู้ก่อเหตุเอามีดมาฟันที่รถและประตูและพ่อของนางสาวดมิสา

จากการสอบถามนางสาวดมิสา ได้เล่าว่าตอนเกิดเหตุตนนอนอยู่ในห้องก็ได้ยินเสียงดังเอะอะโวยวายตนจึงได้ออกมาดูพบผู้ก่อเหตุกำลังถือมีดยาวร้องตะโกนเอาตังมาตนตกใจจึงวางเงินไว้และผู้ก่อเหตุได้หยิบไปเป็นเงิน40บาทและข้างบ้านก็จะเอาเงินมาให้อีกจากนั้นได้ถือมีดฟันไปมาทำให้ประตูห้องของตนพัง และรถได้รับความเสียหายตนก็กลัวเพราะปกติเขาจะเดินถือไม้ไปมาไม่ได้มีอะไรแต่เมื่อวานเขาอาละวาดหนักมากจนตนไม่ไหวจริงๆตนได้มีการไปแจ้งความที่ สภ.คลองกิ่ว แล้วแต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้บอกว่าไม่สามารถไปจับได้เพราะไม่ใช่เหตุซึ่งหน้าตนก็งงว่าใครจะมาตีต่อหน้าตำรวจทั้งที่ตนก็เดือดร้อนแต่ตำรวจจับตัวไม่ได้อยากฝากถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้ามาตรวจและดูแลหน่อยเพราะชาวบ้านก็เดือดร้อน

ทางด้านนายวิรุจน์ เล่าว่าเมื่อก่อนก็เคยรู้จักและสนิทกันเคยมีการไปดื่มเหล้าด้วยกันบ่อยแต่ระยะหลังตนได้เลิกเหล้าไปหลายปีแต่ก็โดนมาหาเรื่องตลอดตอนนี้เป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของครอบครัวและลูกสาวที่อยู่คนเดียวตนก็เป็นห่วงอย่างเมื่อวานก็มาอาละวาดทำให้ทรัพย์สินของตนเสียหายทางญาติเขามาดูแต่ก็ไม่รับผิดชอบอะไรเพราะบอกว่าไม่ได้เป็นคนทำพอตนไปแจ้งความตำรวจก็บอกแค่ว่าไม่สามารถจับกุมตัวได้เพราะไม่ใช่เหตุซึ่งหน้าสิ่งที่ทำได้อย่างเดียวคือ "ขายบ้านนี้ทิ้งแล้วย้ายไปซื้อบ้านที่อยู่ใหม่เพื่อตัดปัญหา"

ทางด้านนางสาวนางสาวคำกรอง อายุ 61 ปี พี่สาวของนายหัสอายุ 54 ปี ผู้ก่อเหตุได้เล่าว่าน้องชายตนไม่เต็มสติไม่ดีเพราะเมื่อก่อนเคยถูกรถชนจนศรีษะหายไปทั้งแถบและร่างกายก็ไม่ดีจะมีขาบวมเน่าและเขามีปัญหากับบ้านนี้มานานแล้วแจ้งตำรวจมาจนเบื่อแล้วเขาจะมีปัญหาแค่บ้านเดียวบ้านอื่นไม่เคยมีปัญหาเพราะคนเขาก็รู้ว่าสติไม่ดีก็ไม่ใช่อะไรแต่บ้านนี้ชอบด่ายั่วยุพอคนสติไม่ดีแล้วโมโหมันก็จะอาละวาดแล้วครอบครัวนั้นก็จะช่วยกันรุมด่าจนเป็นเรื่องราวกันมาบ่อยครั้งถ้าต่างคนต่างอยู่ก็ไม่มีอะไรแต่บ้านนั้นชอบยั่วยุก่อนประจำตนก็เคยบอกและเตือนเขาก็ไม่ฟังอะไรตนก็เคยพาไปรักษาแต่หมอบอกว่าไม่มีเอกสารยืนยันตัวตนทำอะไรไม่ได้เพราะเขาไม่มีบัตรประชาชนแต่ตนยืนยันว่าทั้งซอยน้องไม่เคยมีเรื่องอะไรกับใครจะมีก็แค่หลังเดียวเท่านั้น

ด้านทางนายชูศักดิ์ พรนิมิตรทรัพย์ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 กล่าวว่าครั้งที่แล้วก็เคยมีปัญหากันมาแล้วเมื่อวันที่ 15ธันวาคม 65 ที่ผ่านมาเพราะมีการด่าทอกันจนนายหัสควบคุมตัวเองไม่ได้เคยเป็นข่าวไปแล้วและครั้งนี้ก็ได้รับแจ้งว่านายหัสผู้ก่อเหตุได้เอามีดไปฟันรถเขาและฟันบ้านเขาทางตำรวจก็มีการเข้ามาดูแล้วและตำรวจก็มีการจะมารับตัวไปแต่ติดวันหยุดเลยยังไม่ได้มาเอาตัวไปส่วนนายหัสนั้นเวลาไม่เมาก็จะดีพูดจารู้เรื่องแต่พอเวลาเมาเขาจะพูดไม่รู้เรื่องตอนนี้ก็ได้ประสานทางเจ้าหน้าที่เข้ามาดูแลและจะมีการมารับตัวไปรักษาตัวและบำบัดต่อไป