เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



กกต.แจงข่าวพบบัตรเลือกตั้ง ส.ส.เขต10ชลบุรี ทิ้งในกองขยะ "เป็นข่าวเท็จ"


22 พ.ค. 2566, 14:08



กกต.แจงข่าวพบบัตรเลือกตั้ง ส.ส.เขต10ชลบุรี ทิ้งในกองขยะ "เป็นข่าวเท็จ"




ตามที่มีบุคคลใช้ชื่อบัญชีว่า futkong_lewjunjin และ Revolutio ได้นำเสนอข่าวที่เป็นความเท็จว่า “พบบัตรเลือกตั้งสีม่วงและสีเขียวทิ้งอยู่ในกองขยะ” โดยได้นำเสนอภาพนิ่งและคลิปวิดีโอเผยแพร่ให้แก่สื่อสารมวลชนในรูปแบบต่างๆ จนทำให้ประชาชนหลงเชื่อว่าได้พบบัตรเลือกตั้งดังกล่าวอยู่ในกองขยะ นั้น 

ล่าสุด วันนี้ ( 22 พ.ค.66 ) กกต. ขอเรียนชี้แจงว่า ภาพถ่ายและคลิปวิดีโอ ที่ได้นำมาเสนอต่อสาธารณชนเป็นความเท็จทั้งสิ้น กล่าวคือ เหตุการณ์ตามที่นำเสนอ เกิดขึ้นในวันที่ 20 พ.ค. 2566 โดยวันดังกล่าวมีกลุ่มบุคคลที่สร้างความวุ่นวายจำนวนหนึ่ง บุกเข้ามาในสถานที่เก็บรักษาบัตรเลือกตั้งและอุปกรณ์ ณ ศาลาประชาคม อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โดยในขณะที่เจ้าหน้าที่ประจำเขตเลือกตั้งที่ 10 ได้นำบัตรเลือกตั้งที่เหลือจากการออกเสียงลงคะแนนของหน่วยเลือกตั้ง ในเขตเลือกตั้งที่ 10 จำนวน 151 หน่วย นำมากองรวมกันไว้บนพื้นห้องโถงของอาคารศาลาประชาคม อำเภอสัตหีบ เพื่อทำการคัดแยกจัดหมวดหมู่ของบัตรเลือกตั้งและเอกสารที่ได้รับจากเขตเลือกตั้งที่ 10 ทั้งหมด เพื่อที่จะนำไปเก็บรักษาไว้ ณ สนง.กกต.จังหวัดชลบุรี ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานตามที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำเขต 10 ได้มีกลุ่มบุคคลจำนวนหนึ่ง รวมทั้งหญิงผู้ก่อเหตุจำนวน 2 คน ตามที่ปรากฏเป็นข่าว ได้เข้าไปหยิบฉวยถุงบรรจุบัตรเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้งและแบบบัญชีรายชื่อที่บรรจุไว้ในถุงพลาสติก อย่างละ 1 ถุง ออกไปจากความครอบครองของเจ้าหน้าที่ประจำเขตเลือกตั้งที่ 10 และนำบัตรเลือกตั้งดังกล่าว ออกไปจากสถานที่เก็บรักษา นำไปแสดงให้แก่ประชาชนที่รออยู่นอกอาคาร กล่าวหาโดยแสดงข้อความอันเป็นเท็จว่า ได้พบบัตรเลือกตั้งจำนวน 2 ถุง ทิ้งอยู่ในกองขยะ 

กกต. ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง ไม่ปรากฏว่ามีกองขยะอยู่ภายในอาคารดังกล่าวแต่อย่างใด ภาพที่ปรากฏในสื่อสารมวลชน คือ กองวัสดุอุปกรณ์, ถุงต้นขั้วบัตรเลือกตั้งและบัตรเลือกตั้งที่เหลือจากการเลือกตั้งเป็นบัตรที่ถูกทำลายด้วยวิธีการเจาะรูและร้อยเชือกแล้วทั้งสิ้น โดยมีเจ้าหน้าที่ของ กกต. และกรรมการการเลือกตั้ง ประจำเขตเลือกตั้งที่ 10 เป็นผู้ควบคุมดูแลและตรวจสอบ เพื่อคัดแยกบัตรดังกล่าวอย่างใกล้ชิด 

ดังนั้น การนำเสนอภาพข่าวและคลิปวิดีโอ จึงเป็นความเท็จ.  

คำเตือน ผู้ใดแชร์ข่าวดังกล่าวด้วยวิธีการกดไลค์ กดแชร์ รีทวิต รีโพสต์ ทางยูทูบ ทางติ๊กต๊อก ส่งต่อทางไลน์ไปยังกลุ่มต่างๆ หรือช่องทางสื่อสารอื่นๆ จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.การกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์พ.ศ.2560 มาตรา 14 จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ









Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.