เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



ศาลนัดฟังคำสั่ง "คดีลำห้วยคลิตี้" ปนเปื้อนสารตะกั่ว รอบหน้า 27 มิ.ย.


11 มิ.ย. 2562, 17:08



ศาลนัดฟังคำสั่ง "คดีลำห้วยคลิตี้" ปนเปื้อนสารตะกั่ว รอบหน้า 27 มิ.ย.




จากกรณีการปนเปื้อนสารตะกั่วในลำห้วยคลิตี้เนื่องจากการทำเหมืองแร่ จนทำให้ชาวบ้านได้รับความเจ็บป่วย ตลอดจนเกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม นำไปสู่การฟ้องคดีโดยชาวบ้านคลิตี้ 8 คน ฟ้องบริษัทตะกั่วคอนเซนเตรทส์ (ประเทศไทย) จำกัดกับผู้บริหารของบริษัทเป็นจำเลย รวม 2 ราย ซึ่งต่อมามีคำพิพากษาศาลฎีกา ที่ 15219/2558 ให้จำเลยร่วมกันชำระเงินค่าเสียหายแก่โจทก์และให้จำเลยแก้ไขฟื้นฟูลำห้วยคลิตี้ ด้วยค่าใช้จ่ายของจำเลยทั้งสองจนกว่าลำห้วยคลิตี้จะกลับมามีสภาพที่สามารถใช้อุปโภคบริโภคได้ตามมาตรฐานของทางราชการ

 

ในคดีนี้หลังจากที่บริษัทตะกั่วฯ จำเลยกับพวกได้ชำระเงินค่าเสียหายแก่โจทก์แล้ว จำเลยละเลยไม่ดำเนินการตามคำพิพากษาศาลฎีกาในส่วนของการแก้ไขฟื้นฟูลำห้วยคลิตี้ โจทก์จึงยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดกาญจนบุรีขอให้เรียกจำเลยมาไต่สวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการดำเนินการฟื้นฟูตามคำพิพากษาศาลฎีกา แต่ศาลยกคำร้องเนื่องจากไม่ปรากฏว่าจำเลยไม่ดำเนินการฟื้นฟูลำห้วยคลิตี้ตามคำพิพากษา

ต่อมาวันที่ 21 ก.พ.62 ทนายความจากสภาทนายความร่วมกับมูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อม ได้ยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดกาญจนบุรี ขอให้กรมควบคุมมลพิษ ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกในคดีนี้และอยู่ระหว่างการดำเนินการตามแผนการฟื้นฟูลำห้วยคลิตี้ ปี 2561-2563ในวงเงิน 454,762,865.73 บาท ตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด เข้ามาดำเนินการฟื้นฟูลำห้วยคลิตี้แทนจำเลย โดยให้จำเลยเสียค่าใช้จ่ายที่กรมควบคุมมลพิษดำเนินการไป ตามนัยของ มาตรา 358 กฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งที่แก้ไขใหม่ ซึ่งศาลจังหวัดกาญจนบุรี มีคำสั่งนัดไต่สวนโจทก์ จำเลยและกรมควบคุมมลพิษ วันที่ 22 เม.ย.62 ที่ผ่านมา

 

 และศาลได้เลื่อนนัดไต่สวนในวันที่ 11 มิ.ย.62 เวลา 09.00 น.ซึ่งศาลนัดไต่สวนโจทก์ จำเลย ในคดีหมายเลขดำที่ พ.106/2546 และคดีหมายเลขแดงที่ 1565/2549 ระหว่าง นายกำธร ศรีสุวรรณมาลา ที่ 1 กับพวกรวม 8 คน (โจทก์) กับ บริษัท ตะกั่วคอนเซนเตรทส์ (ประเทศไทย) จำกัด ที่ 1 กับพวกรวม 2 คน

 

ล่าสุดเมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ 11 มิ.ย.62 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่านายกำธร ศรีสุวรรณมาลา นายยะเสอะ นาสวนสุวรรณ น.ส.ชยาวีร์ หวังเจริญรุ่ง นักวิชาการสิ่งแวดล้อมชำนาญการพิเศษ กรมควบคุมมลพิษ พร้อมด้วย ว่าที่ ร.ต.สมชาย อามีน นายสุรสีห์ พลไชยวงศ์ นายสุรชัย ตรงงาม ทนายความจากสภาทนายความ ได้เดินทางมาตามที่ศาลจังหวัดกาญจนบุรี ได้นัดเอาไว้ นอกจากนี้ยังมีเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ตัวแทนจำเลยที่ 1 ได้เดินทางมารับฟังด้วย

 

ทั้งนี้ นายกำธร ศรีสุวรรณมาลา โจทก์ เปิดเผยก่อนก่อนถึงเวลาที่ศาลนัดว่า ประเด็นที่มาในวันนี้เนื่องจากศาลเรียกมาไต่สวนเกี่ยวกับเรื่องการฟื้นฟูลำห้วยคลิตี้ ที่ศาลปกครองมีคำสั่งว่ากรมควบคุมมลพิษมีหน้าที่ฟื้นฟู

สำหรับคดีแพ่งศาลฎีกาตัดสินว่าให้บริษัทฯ เป็นผู้ฟื้นฟูมลพิษทั้งหมด ซึ่งขณะนี้กรมควบคุมมลพิษฟื้นฟูลำห้วยคลิตี้นั้นมันดีอยู่แล้ว เพราะมีนักวิชาการ และเป็นหน่วยงานโดยตรงด้วย แต่ถ้าให้บริษัทผู้ก่อมลพิษมาฟื้นฟู ทำให้ชาวบ้านไม่ไว้วางใจ ซึ่งวันนี้ก็ต้องมาดูว่าศาลท่านจะพิจารณาอย่างไร” นายกำธร กล่าว

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ครั้งนี้ศาลจังหวัดกาญจนบุรี ได้นัดไต่สวนคำร้องที่ชุมชนร้องขอให้กรมควบคุมมลพิษ ฟื้นฟูแก้ไขการปนเปื้อนสารตะกั่วในลำห้วยคลิตี้แทนผู้ประกอบการเหมืองตะกั่ว ฝ่ายโจทก์ จำนวน 3 ปาก ประกอบด้วยปากนายกำธร ศรีสุวรรณมาลา ปากนายยะเสอะ นาสวนสุวรรณ และปากเจ้าหน้าที่กรมควบคุมมลพิษ โดยใช้เวลาเกือบ 3 ชั่วโมงจึงแล้วเสร็จ

 

โดยว่าที่ ร.ต.สมชาย อามีน ทนายความ เปิดเผยภายหลังว่า วันนี้เรามีนัดไต่สวนคำร้องที่โจทก์ทั้ง 8 คน ยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้กรมควบคุมมลพิษ ดำเนินการแก้ไขฟื้นฟูลำห้วยคลิตี้แทนจำเลยทั้ง 2 คน โดยให้จำเลยทั้ง 2 คน เป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายในการฟื้นฟูทั้งหมด ดังนั้นวันนี้ศาลจึงได้นัดไต่สวน ซึ่งวันนี้ศาลไต่สวนพยานได้ 3 ปาก ซึ่งเป็นตัวแทนโจทก์ 2 ปาก ตัวแทนของกรมควบคุมมลพิษ 1 ปาก และหลังจากไต่สวนแล้วเสร็จศาลได้มีคำสั่งนัดฟังคำสั่งในวันที่ 27 มิ.ย.62 เวลา 13.30 น.

 

สำหรับความคาดหวัง โดยหลักการกฎหมายสิ่งแวดล้อม ผู้ที่ก่อมลพิษจะต้องเป็นผู้จ่ายอยู่แล้ว เพียงแต่ว่ากรณีนี้ทางจำเลยที่เป็นเอกชนมันไม่มีความสามารถเพียงพอที่จะไปทำการฟื้นฟูลำห้วยคลิตี้ แต่กรมควบคุมมลพิษเป็นหน่วยงานของรัฐซึ่งมีอำนาจหน้าที่และความชำนาญในการแก้ไขฟื้นฟูลำห้วย ความคาดหวังของเราก็คือหวังว่าศาลจะมีคำสั่งให้ทางกรมควบคุมมลพิษ เข้าไปดำเนินการแก้ไขฟื้นฟูลำห้วยคลิตี้ แทนจำเลยทั้ง 2 คน โดยเรียกค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่ทางกรมควบคุมมลพิษดำเนินการจากจำเลยทั้ง 2 คน ซึ่งเป็นไปตามหลักการของกฎหมาย

 

 



 


 






Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.