วันที่ 16 พ.ค.66 ที่สำนักงานตำรวจภาค 7 ชุดสืบสวนร่วมกันประชุมติดตามความคืบหน้าของคดี นางสรารัตน์ หรือ แอมไซยาไนด์ หลังจาก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เรียกประชุมและนำข้อมูลที่ไปสอบปากคำ นางสรารัตน์ ภายในทัณฑสถานหญิงกลาง เมื่อช่วงเย็นวานนี้ ซึ่ง นางสรารัตน์ รับสารภาพว่า ได้นำสารไซยาไนด์ไปให้ น.ส.ศิริพร ขุนวงษ์ หรือก้อย ผสมกับยาเสพติดเพื่อทดลองเสพ จนทำให้เสียชีวิตและอ้างว่านำไซยาไนด์มาจาก นายแด้ อดีตสามี

โดยวันนี้จะเชิญตัว พ.ต.ท.วิฑูรย์ รังสิวุฒาภรณ์ อดีตสามีของ นางสรารัตน์ มารับทราบข้อกลาวหาเพิ่ม ในข้อหาทำลายพยานหลักฐาน และให้การสนับสนุนผู้ต้องหาที่กระทําความผิด หลังจากที่ก่อนหน้านี้ถูกออกหมายจับในคดียักยอกทรัพย์ และใช้เอกสารทางราชการปลอม นอกจากนั้นจะนำหลักฐานที่ได้เพิ่มเติมไปขอศาลจังหวัดนครปฐมออกหมายจับ ผู้ต้องหาที่ใกล้ชิดกับ นางสรารัตน์

ขณะเดียวกันในช่วงบ่ายของวันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเชิญ รศ.วีรชัย พุทธวงศ์ อาจารย์ประจําภาควิชาเคมี คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มารายงานผลของการตรวจสอบสารเคมีที่ตรวจยึดได้ จากการตรวจวัตถุพยาน จำนวน 296 รายการ จาก 18 เคส ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว

สำหรับประเด็นที่ นางสรารัตน์ อ้างว่านำสารไซยาไนด์ ให้ก้อยใช้กับยาเสพติด กรณีนี้ ตำรวจตรวจสอบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติด ระบุว่าในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา การจับผู้ต้องหาคดียาเสพติด รวมทั้งการตรวจยึดสวนผสมของแหล่งผลิต ทั้งยาบ้า เฮโรอีนและยาไอซ์ ยังไม่เคยพบว่ามีไซยาไนด์เป็นสวนผสมกับยาเสพติด ซึ่งสารไซยาไนด์ถือว่าเป็นสารพิษมีความอันตราย จึงไม่มีเหตุผลที่จะนำมาผสมกับสารเสพติด ส่วนที่สังคมเข้าใจว่าในยาเสพติดมีสวนผสมของยาฆ่าแมลงอยู่ด้วย ในอดีตเคยตรวจยึดยาบ้าพบว่ามีส่วนผสมกับยาฆ่าแมลง แต่ไม่ใช่สารไซยาไนด์ เป็นสารชนิดอื่นที่ละลายแล้วนำไปเป็นสารตั้งต้นของยาเสพติด

ล่าสุดเมื่อเวลา 15.30 น. วันเดียวกัน พ.ต.ท.วิฑูรย์ เข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อมารับทราบข้อกล่าวหา ทำลายพยานหลักฐาน หลังตำรวจชุดสืบสวนพบพยานหลักฐานที่เชื่อว่า พ.ต.ท.วิฑูรย์ เป็นผู้ก่อเหตุนครปฐม เชิญตัวพ.ต.ท.วิฑูรย์ อดีตสามีแอม ไซยาไนด์มารับทราบข้อกลาวหาเพิ่ม

สำหรับข้อหาที่ พ.ต.ท.วิฑูรย์ ถูกแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มนั้น เป็นคดีของ น.ส.ก้อย ที่เกิดเหตุใน อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี โดยพบว่า พ.ต.ท.วิฑูรย์ นำกระเป๋าของ น.ส.ก้อย นำไปซ่อนไว้ก่อน สุดท้ายพบว่าถูกส่งไปที่ น.ส.แก้ว ใน จ.เพชรบุรี

ทั้งนี้เมื่อ พ.ต.ท.วิฑูรย์ เดินทางมาถึงและมีเจ้าหน้าที่พาขึ้นไปที่ห้องสอบสวนบนชั้น 3 ซึ่ง พ.ต.ท.วิฑูรย์ มีสีหน้าเรียบเฉย ไม่ยอมตอบคำถามใดๆ กับสื่อมวลชน และภายหลังสอบปากคำและแจ้งข้อหากล่าวหาเพิ่ม ก็ได้ปล่อยตัว พ.ต.ท.วิฑูรย์ กลับ เนื่องจากผู้ต้องหาไม่มีพฤติการณ์หลบหนี และมีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง