เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



ปิดแล้ว! โรงไฟฟ้าถ่านหินเก่าแก่ที่สุดในออสเตรเลีย เตรียมก้าวสู่พลังงานหมุนเวียน


29 เม.ย. 2566, 14:44



ปิดแล้ว! โรงไฟฟ้าถ่านหินเก่าแก่ที่สุดในออสเตรเลีย เตรียมก้าวสู่พลังงานหมุนเวียน




สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ออสเตรเลียปิดโรงไฟฟ้าถ่านหินลิดเดลล์ ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าถ่านหินเก่าแก่ที่สุดของประเทศ เมื่อวันศุกร์ที่ 28 เมษายน 2566 โรงไฟฟ้าแห่งนี้อยู่ทางเหนือของนครซิดนีย์ ใช้เวลาขับรถราว 3 ชั่วโมง เป็นหนึ่งในโรงไฟฟ้าถ่านหินอายุมากที่ออสเตรเลียจะทยอยปิดในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า

โรงไฟฟ้าถ่านหินแห่งนี้สร้างเมื่อปี 2514 ผลิตไฟฟ้าร้อยละ 10 ที่ใช้ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งเป็นรัฐที่มีประชากรมากที่สุดของออสเตรเลีย

บริษัท เอจีแอล เจ้าของโรงไฟฟ้าถ่านหินลิดเดลล์ กล่าวในถ้อยแถลงว่า ต้องใช้เวลาราว 2 ปีจึงจะรื้อถอนโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่แห่งนี้ได้ทั้งหมด สถานที่ตั้งโรงไฟฟ้าแห่งนี้จะใช้สำหรับโครงการพลังงานสะอาดใหม่ เช่น โรงไฟฟ้าพลังงานไฮโดรเจน มากกว่าร้อยละ 90 ของวัสดุของโรงไฟฟ้าแห่งนี้จะนำไปรีไซเคิล รวมถึงเหล็กน้ำหนัก 70,000 ตัน ซึ่งเป็นปริมาณเหล็กมากกว่าที่ใช้สร้างสะพานซิดนีย์ฮาร์เบอร์



ออสเตรเลียเป็นหนึ่งในประเทศที่ผลิตและส่งออกถ่านหินรายใหญ่ที่สุดในโลกมานานแล้ว รัฐบาลหลายชุดที่ผ่านมาของออสเตรเลียต้านทานแรงกดดันของประชาชนที่เรียกร้องให้ลดขนาดของอุตสาหกรรมถ่านหิน

แต่พรรคแรงงานของออสเตรเลีย ซึ่งเป็นพรรคซ้ายกลางที่ชนะเลือกตั้งได้จัดตั้งรัฐบาลเมื่อปีที่แล้วให้สัญญาว่าจะดำเนินการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และตั้งเป้าหมายไว้ว่าร้อยละ 82 ของไฟฟ้าที่ใช้ในประเทศจะต้องมาจากพลังงานหมุนเวียนให้ได้ภายในปี 2573 ซึ่งจำเป็นต้องยกเครื่องภาคพลังงานของประเทศขนานใหญ่ เนื่องจากปัจจุบันออสเตรเลียใช้พลังงานหมุนเวียนแค่ราวร้อยละ 30


ภายใต้แรงกดดันจากสาธารณชนที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเรียกร้องให้แก้ไขวิกฤตการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทำให้บริษัทเชื้อเพลิงฟอสซิลของออสเตรเลียจำนวนมากเลือกที่จะปิดโรงงานของตนมากกว่าจะดำเนินกิจการต่อ

โรงไฟฟ้าถ่านหินเอแรริง ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าถ่านหินขนาดใหญ่ที่สุดของออสเตรเลียตั้งอยู่ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ มีกำหนดปิดกิจการในปี 2568 และโรงไฟฟ้าถ่านหินอีกจำนวนหนึ่งจะปิดตามมาในทศวรรษหน้า






Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.