เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



คืบหน้า ! "ลูกชาย" หลอนยาบ้าฆ่าพ่อ พี่เขยเผยวินาทีลูกชายใช้ด้ามเสียมตีพ่อจนเสียชีวิต


23 เม.ย. 2566, 23:29



คืบหน้า ! "ลูกชาย" หลอนยาบ้าฆ่าพ่อ พี่เขยเผยวินาทีลูกชายใช้ด้ามเสียมตีพ่อจนเสียชีวิต




ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่เกิดเหตุ นายวิไล พิบูลชาติ อายุ 21 ปี มีอาการหลอนยาบ้าใช้ด้ามเเสียมกระหน่ำตีศีรษะของนายเชิด พิบูลชาติ อายุ 52 ปี พ่อของตนเองเสียชีวิตคาที่ เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 20.30 น.ของคืนวันที่ 22 เม.ย. 66 ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ภูสิงห์ สามารถจับกุมตัวนายวิไลผู้ก่อเหตุเอาไว้ได้ที่บ้านพัก เลขที่ 72 หมู่ 10 บ้านไพรพัฒนา ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งนายวิไลได้ให้การรับสารภาพ แต่ไม่ยอมบอกพนักงานสอบสวน สภ.ภูสิงห์ ถึงสาเหตุที่ลงมือฆ่าพ่อของตนเอง ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเวลา 16.25 น.วันที่ 23 เม.ย.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ บ้านเลขที่ 72 บ้านไพรพัฒนา หมู่ 10 ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุ นางมลัด พรหมอินทร์ อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 100 หมู่ 10 บ้านไพรพัฒนา ซึ่งเป็นพี่สาวของนายเชิด พิบูลชาติ ที่ถูกลูกชายกระหน่ำตีศีรษะจนเสียชีวิต ได้ร่วมกับญาติพี่น้องนำเอาอาหารคาวหวานและเหล้าขาวมาประกอบพิธีเรียกวิญญาณของนายเชิด เพื่อนำไปประกอบพิธีฌาปนกิจศพนายเชิดที่เสียชีวิต จากนั้น ญาติพี่น้องของนายเชิดได้นำผู้สื่อข่าวไปดูบ้านพักของนายเชิดและลูกชายผู้ก่อเหตุ พบว่าเป็นบ้านชั้นเดียว ข้าวของภายในบ้านโดนทุบทำลายเสียหาย ลักษณะคล้ายกับไม่มีคนอยู่ในบ้าน แต่ญาติพี่น้องยืนยันว่าบ้านหลังนี้มีนายวิไล พิบูลชาติ ลูกชายของนายเชิด ผู้ก่อเหตุ อาศัยอยู่เพียงคนเดียวเท่านั้น โดยก่อนหน้านี้นายเชิดอาศัยอยู่กับลูกชายเพียง 2 คน แต่ต่อมา นายวิไลติดยาบ้าอย่างหนักและมีอาการหลอน ชอบทุบตีพ่อของตนเอง นายเชิดจึงได้ไปพักอาศัยอยู่กับบ้านพ่อของตนเอง ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 100 เมตร ขณะเดียวกัน ญาติพี่น้องได้พากันทำขันดอกไม้ตามหลักประเพณีเขมรโบราณ เพื่อนำไปใช้ในการประกอบพิธีศพ ซึ่งจะมีการสวดพระอภิธรรมศพเป็นคืนแรก  

ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่วัดไพรพัฒนา ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งมีการนำเอาศพของนายเชิดมาตั้งบำเพ็ญกุศล โดยได้รับความเมตตาจาก พระครูโกศลสิกขกิจ หรือหลวงพ่อพุฒ วายาโม ประธานมูลนิธิหลวงปู่สรวง เจ้าคณะ อ.ภูสิงห์ (ธ) และเจ้าอาวาสวัดไพรพัฒนา เป็นเจ้าภาพจัดพิธีศพให้กับนายเชิดจนกว่าจะแล้วเสร็จ ซึ่งเจ้าหน้าที่ของวัดไพรพัฒนาร่วมกับนายบันเทิง แสงสว่าง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 10 บ้านไพรพัฒนา ได้ทำการนำเอาศพของนายเชิดบรรจุใส่โลง เพื่อจะได้ประกอบพิธีสวดพระอภิธรรมศพต่อไป



นางมลัด พรหมอินทร์ อายุ 65 ปี ซึ่งเป็นพี่สาวของนายเชิด กล่าวว่า ตนมีบ้านอยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุ ขณะที่เกิดเหตุตนได้ยินเสียงคล้ายกับการนำเอาฆ้อนทุบหลายครั้ง และมีเสียงร้องให้ช่วย ตนจึงได้ออกมาดู และพบว่านายเชิดโดนตีที่ศีรษะ เลือดกระจายทั่วบริเวณ ซึ่งคนที่ตีคือ นายวิไล ซึ่งเป็นลูกชายของนายเชิดเอง และเป็นคนที่มีอาการติดยาบ้าอย่างหนัก

นายสวัสดิ์ พิบูลชาติ อายุ 66 ปี ซึ่งเป็นพี่ชายของนายเชิด กล่าวว่า ตนรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก เพราะว่าคนตายเป็นน้องชายของตน ตนไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นมา แต่เหตุการณ์นี้นายเชิด พ่อของนายวิไลก็กำลังเมาเหล้า อีกทั้งนายวิไลก็เมายาบ้า จึงทำให้เกิดเหตุสลดนี้ขึ้นมา

นายสุบิน จันทเทพ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 102 หมู่ 10 บ้านไพรพัฒนา ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นหลานเขยของนายเชิด และมีบ้านอยู่ติดกับที่เกิดเหตุ กล่าวว่า ตนได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือ จำได้ว่าเป็นเสียงของนายเชิด และได้ยินเสียงคล้ายกับการใช้ฆ้อนทุบกับสิ่งของ ประมาณ 4–5 ครั้ง ตนจึงได้ออกมาดู พบว่า นายวิไลกำลังใช้ด้ามเสียมตีนายเชิด พ่อของตนเอง จนทำให้ด้ามเสียมหักเป็น 2 ท่อน ตนจึงได้ใช้ไฟฉายส่องไฟใส่นายวิไล ทำให้นายวิไลตกใจวิ่งหนีเข้าไปในป่าต้นมะขาม ตนวิ่งตามไปแต่ไม่ทัน ส่วนสาเหตุที่นายวิไลกระหน่ำตีพ่อของตนเองจนเสียชีวิตนั้น ไม่ทราบว่าเพราะสาเหตุใด เพราะว่าตนก็นอนหลับอยู่ภายในบ้าน ตนจึงได้รีบโทรศัพท์แจ้งให้ผู้ใหญ่บ้านและกำนัน ต.ไพรพัฒนาทราบ ซึ่งได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ภูสิงห์ทราบ เพื่อมาทำการตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นายวิไล พิบูลชาติ อายุ 21 ปี ผู้ต้องหารายนี้ ถูกควบคุมตัวอยู่ที่ สภ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่ง พ.ต.ท.อรรณพ มณีวงษ์ สารวัตรสอบสวน สภ.ภูสิงห์ กำลังเร่งสอบสวน และรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป



คำที่เกี่ยวข้อง : #ศรีสะเกษ   #ลูกชาย   #หลอนยาบ้า   #ลูกฆ่าพ่อ  




Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.