เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



ททท.คาดปี 66 มีลุ้นนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทย แตะ 30 ล้านคน


25 มี.ค. 2566, 14:36



ททท.คาดปี 66 มีลุ้นนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทย แตะ 30 ล้านคน





นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้เผยภาพรวมการท่องเที่ยวของไทยในช่วงไตรมาส 1/66 มีทิศทางการฟื้นตัวเร็วกว่าที่ประเมินไว้ค่อนข้างมาก โดยในเดือนมกราคม 2566 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยจำนวน 2.14 ล้านคน ขยายตัว 1,502.76% อีกทั้ง ททท. คาดว่าไตรมาส 1/66 นี้ จะมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทยราว 6 ล้านคน และตลอดทั้งปีนี้ ไทยน่าจะมีลุ้นนักท่องเที่ยวต่างชาติไม่น้อยกว่า 25 ล้านคน และอาจมีลุ้นถึง 30 ล้านคน

สำหรับทิศทางการท่องเที่ยวที่ดีขึ้นนี้ เป็นผลมาจากนโยบายของรัฐบาลในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ประกอบกับการเดินทางเที่ยวในประเทศไตรมาสแรกปีนี้ มีปัจจัยสนับสนุนจากโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 5 ช่วยสร้างงานสร้างรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการและแรงงานในท้องถิ่น รวมกว่า 1.2 หมื่นล้านบาท ขณะเดียวกันโครงการกระตุ้นการท่องเที่ยวเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศไทย ภายใต้เป้าหมายการสร้างรายได้ภายในประเทศไทย ได้ช่วยกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมายังประเทศไทย และกระตุ้นให้คนไทยเที่ยวภายในประเทศได้เป็นอย่างดี



นายอนุชา กล่าวถึงโครงการ “เราเที่ยวด้วยกันเฟส 5” มีส่วนช่วยขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เป็นปัจจัยสนับสนุนให้ทิศทางการท่องเที่ยวภายในประเทศของไทยดีขึ้น โดยประชาชนให้การตอบรับโครงการฯ เป็นอย่างดี หลังรัฐบาลเปิดให้ประชาชนลงทะเบียน ผ่าน www.เราเที่ยวด้วยกัน.com เพื่อขอรับสิทธิ์ “เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5” โดยให้จองโรงแรมที่พักได้ ตั้งแต่วันที่ 7 มีนาคม 2566 เป็นต้นไป ตั้งแต่เวลา 06.00 – 23.00 น. ซึ่งปรากฏว่า มีจำนวนผู้ใช้สิทธิที่พักในโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 5 เหลือ 0 สิทธิ เต็มแล้วตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคม 2566 จากที่เปิดให้จองที่พัก 560,000 สิทธิ ซึ่งคนที่ได้สิทธิจองโรงแรมแล้วสามารถเข้าพักคืนแรกในวันที่ 10 มีนาคม 2566 เป็นต้นไป สะท้อนภาพรวมการท่องเที่ยวของไทยในช่วงไตรมาส 1 ปี 2566 มีทิศทางการฟื้นตัวเร็วกว่าที่ประเมินไว้ค่อนข้างมาก

ขณะที่โครงการกระตุ้นการท่องเที่ยวเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศไทย เพื่อเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศไทยกับนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างประเทศ ให้เดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศเพิ่มขึ้น วงเงินรวม 1,930.4348 ล้านบาท แนวทางการดำเนินกิจกรรมประกอบด้วย 1. การกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวเดินทางมายังประเทศไทยจากต่างประเทศ โดยเน้นการนำเสนอ Soft Power ผ่าน Digital Market และกิจกรรมทางการตลาด 2. กระตุ้นท่องเที่ยวไทยเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ (ไทยเที่ยวไทย) ให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวบ่อยครั้งขึ้น 3. การสื่อสารและประชาสัมพันธ์ เผยแพร่และสร้างกระแสการเดินทางภายในประเทศ ภายใต้แคมเปน Amazing Thailand, Amazing New Chapters 4. การยกระดับคุณภาพสินค้าเพื่อกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยว สำหรับพื้นที่ดำเนินการ คือ จังหวัดทั่วประเทศไทย ระยะเวลาดำเนินการในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ – กันยายน 2566 ซึ่งเป้าหมายของโครงการฯ เพื่อช่วยผลักดันและสนับสนุนการสร้างรายได้ทางการท่องเที่ยวให้เป็นไปตามเป้าหมาย 2.38 ล้านล้านบาท


“ททท. ตั้งเป้าหมายปี 2566 ประเทศไทยมีรายได้จากภาคการท่องเที่ยว 2.38 ล้านล้านบาท โดยมาจากนักท่องเที่ยวชาวไทยออกเดินทางภายในประเทศ 160 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้ 8.8 แสนล้านบาท หากรวมกับนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาประเทศไทย ในกรณีที่ดีที่สุด (best case scenario) จำนวน 25-30 ล้านคน คาดว่าจะมีรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติรวม 1.5 ล้านล้านบาท นอกจากนี้ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ได้ประเมินว่า เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะได้รับผลดีจากภาคการท่องเที่ยวที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ตลอดจนการบริโภคภาคเอกชนที่ฟื้นตัวต่อเนื่องโดยเฉพาะภาคบริการ และการจ้างงานและรายได้แรงงานที่ปรับดีขึ้นด้วย” นายอนุชา กล่าว

ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีในคราวประชุมเมื่อวันที่ 24 มกราคม 2566 มีมติอนุมัติวงเงินรวมทั้งสิ้น 3,946,434,800 บาท เพื่อดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศไทยด้านการท่องเที่ยว จำนวน 2 โครงการ ได้แก่ โครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5 วงเงินรวม 2,016,000,000 บาท และโครงการกระตุ้นการท่องเที่ยวเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศไทย วงเงิน 1,930,434,800 บาท ส่งผลดีต่อผู้ประกอบการทั้งในและนอกอุตสาหกรรมท่องเที่ยว รวมทั้งภาคแรงงานในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกว่า 11 ล้านคน โดยคาดว่าโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5 ก่อให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ 12,539 ล้านบาท






Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.