ความคืบหน้ากรณีนายอรรถพล หรือฟลุ๊ค บุญยวง อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 53/3 หมู่  2 ต.ม่วงชุม อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี เจ้าของร้านชำ ถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนบุกเข้าไปยิงเข้าตามร่างกายและใบหน้า และไปเสียชีวิตที่โรพยาบาลสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 19 หลังก่อเหตุคนร้ายได้เดินไปขึ้นรถจักรยนต์ที่เพื่อนจอดรออยู่ หลบหนีไปอย่างใจเย็น เหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 20.30 น.ของคืนวันที่ 8 มี.ค.66 ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการ สภ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี พล.ต.ต.ไพโรจน์ คุ้มภัย ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี ได้เรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ภาค 7 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ภ.จว.กาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ท่าม่วง ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกองปราบ  และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตำรวจ ประชุมวางแผนในการเร่งรัดเพื่อติดตาม คนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว การประชุมในครั้งนี้เจ้าหน้าที่ตั้งสาเหตุแรงจูงใจของคนร้ายโดยมุ่งเน้นไปที่ขบวนการค้ายาเสพติดในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี จ.สุพรรณบุรี และ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ที่ผู้ถูกยิงเสียชีวิตอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวรการดังกล่าวด้วย

ทั้งนี้ พล.ต.ต.ไพโรจน์ คุ้มภัย ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี  เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบประวัติของ นายอรรถพล ผู้ตาย พบว่าเคยมีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มนักค้ายาเสพติดในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีและจังหวัดใกล้เคียง แต่หลังจากที่พ้นโทษออกมาก็พบว่าตัวผู้เสียชีวิตไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติดอีกเลย แต่จากการเกิดเหตุสังหารโหดครั้งนี้ ตำรวจได้พุ่งเป้าไปที่เรื่องขัดผลประโยชน์เรื่องยาเสพติดเอาไว้ก่อน

จากแนวทางการสืบสวนเบื้องต้นทราบกลุ่มของคนร้ายที่ก่อเหตุแล้ว คาดว่าเป็นกลุ่มค้ายาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี โดยมีบุคคลที่อยู่ในกลุ่มดังกล่าวจำนวน 2 คน และยังคงหลบหนีหมายจับ แต่จะมีบุคคลอื่นที่อยู่ในกลุ่มนักค้ายากลุ่มนี้กี่คนนั้นยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้ และยังไม่ขอยืนยันว่าเป็นบุคคลเดียวกับคนร้ายที่ก่อเหตุใช้อาวุธปืนลอบยิงนายอรรถพลครั้งแรกเมื่อ 6 เดือนก่อนหรือไม่

.

สำหรับเรื่องของอาวุธปืนที่คนร้ายใช้ในการก่อเหตุนั้น มีขนาด 9 มม. ซึ่งตอนนี้ยังคงต้องพิสูจน์ทราบอีกครั้งว่ากระสุนปืนขนาด .22 ที่ตกอยู่บริเวณที่เกิดเหตุข้างผู้เสียชีวิตนั้นมาจากอาวุธปืนของใครเพราะจากการตรวจสอบอาวุธปืนของนายอรรถพลที่มักจะพกติดตัวเป็นประจำนั้นมีขนาด 9 มม.ด้วยเช่นกัน”  พล.ต.ต.ไพโรจน์  กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากประชุมวางแผนแล้วเสร็จ  พล.ต.ต.ไพโรจน์ คุ้มภัย ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พร้อมทีมงาน ได้เดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุอีกครั้งหนึ่ง หลังตรวจสอบแล้วเสร็จ พล.ต.ต.ไพโรจน์ฯ ได้มีการสอบถามและพูดคุยกับแม่ของผู้เสียชีวิตถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยแม่ของผู้เสียชีวิตได้ยกมือไหว้ พร้อมกล่าวว่าขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งรัดจับกุมตัวคนร้ายที่ยิงลูกชายตัวเองมาให้ได้โดยเร็ว ซึ่ง พล.ต.ต.ไพโรจน์ คุ้มมภัย ให้คำมั่นสัญญาว่าจะติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีได้ในเร็วๆนี้อย่างแน่นอน

สำหรับกล้องวงจรปิด เจ้าของบ้านแจ้งว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยกเอาไปเพื่อตรวจสอบ เนื่องจากบุคคลภายในบ้านไม่ทราบรหัส เนื่องจากผู้ตายทราบเพียงผู้เดียว จึงสามารถเปิดเจ้าหน้าที่ได้นำส่งไปให้ผู้เชี่ยวชาญได้ตรวจสอบ ต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง หากเปิดดูภาพได้แล้วคดีก็จะคืบและกระจ่างเร็วขึ้น และทราบว่ามือปืนทั้ง 2 นั้นเป็นใคร./