เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



อุตรดิตถ์ จัดพิธีกวนพุทราแขวนบาตร ตำนานแห่งศาสนาหนึ่งเดียวในโลก


2 ก.พ. 2566, 14:07



อุตรดิตถ์ จัดพิธีกวนพุทราแขวนบาตร ตำนานแห่งศาสนาหนึ่งเดียวในโลก




ผู้สื่อข่าว ONB News รายงานว่า ที่บริเวณลานธรรม หน้าพระวิหารหลวงวัดพระแท่นศิลาอาสน์ พระอารามหลวง บ้านทุ่งยั้ง  อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ ซึ่งอยู่ในช่วงเทศกาลงานบุญใหญ่ประจำปี งานนมัสการพระแท่นศิลาอาสน์ โดยเป็นศาสนสถานโบราณเก่าแก่ มีหลักฐานระบุไว้บนแผ่นศิลาจารึกอยู่ที่วัดพระแท่นดงรัง จังหวัดกาญจนบุรี ทุกๆปีก่อนถึงวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำเดือน 3 ปีนี้ตรงกับวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2566 ทางวัดโดย พระวินัยสาทร (พระ-วิ-ไน-สา-ทอน) เจ้าอาวาสวัดพระแท่นศิลาอาสน์ พระอารามหลวง เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก-อุตรดิตถ์ ธรรมยุต ประธานฝ่ายสงฆ์ นายสมหวัง พ่วงบางโพ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ ประธานฝ่ายฆราวาส เป็นประธานในพิธีกวนพุทราแขวนบาตร บูชาพระแท่นศิลาอาสน์  ด้วยการนำผลพุทราแขวนบาตร เก็บมาจากต้นพุทราอายุเก่าแก่เป็นพุ่มขนาดใหญ่ ความสูงประมาณ 10 เมตร อยู่ทางทิศใต้ติดกำแพงของวิหารหลวง ซึ่งเหลืออยู่เพียงต้นเดียว จากคำบอกเล่าของชาวบ้านเมื่อหลายสิบปีก่อนว่าพุทราแขวนบาตรต้นที่เห็นยืนตระหง่านอยู่นี้อายุมากกว่า 200 ปีและเป็นต้นลูกรุ่นที่ 7 ของต้นตอเดิมตามที่บรรพบุรุษบอกเล่าและจดจำกันมา



โดยต้นนี้มีลักษณะแปลกกว่าต้นอื่นคือการเจริญเติบโตจะเอนและเอียงเข้าไปหาใต้ร่มเงาหลังคาวิหารพระแท่น แทนที่จะโตตั้งตรงรับแสงแดดเหมือนต้นไม้อื่น ชาวบ้านจึงต้องสร้างกำแพงหนาเป็นการรับน้ำหนักลำต้นไม่ให้โค่นล้ม อีกทั้งมีลักษณะที่ไม่มีแมลงหรือตัวหนอนกัดกินแม้จะสุกงอมจนแห้งก็ตาม หลังจากได้เก็บผลพุทราที่สุกและร่วงหล่น ได้นำมาตากให้แห้งแล้ว หนุ่มๆชาวบ้านทุ่งยั้งช่วยกันตำและบดให้ละเอียด เมื่อได้วันเวลาเป็นอุดมฤกษ์จึงนำลงกวนในกระทะพร้อมส่วนผสมอื่นตามแบบโบราณแท้ ที่สำคัญชุดกวนไม้แรกต้องเป็นเด็กหญิงหรือสตรีสาวพรหมจารีย์เท่านั้น  เสมือนหนึ่งนางสุชาดา ถวายข้าวมธุปายาสแด่พระพุทธเจ้าครั้งสมัยพุทธกาล ประเพณีกวนพุทราแขวนบาตรนี้พบเห็นเพียงแห่งเดียว ถือเป็นมหากุศลอันยิ่งใหญ่เป็นการบูชาพระแท่นศิลาอาสน์ และรำลึกถึงพระคุณอันประเสริฐของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้ชาวพุทธชนได้สืบสานกันต่อไปชั่วลูกหลาน ส่วนพุทรากวนแขวนบาตรเมื่อกวนจนสุกและเหนียวหนืดเสร็จสรรพแล้วได้มีการตักแบ่งกันไปรับประทานอธิษฐานเป็นยารักษาโรคภัยไข้เจ็บ ให้ชีวิตเจริญรุ่งเรือง ส่วนผู้คนสงสัยและต้องการหาคำตอบว่า พุทราแขวนบาตรมีความเป็นมาอย่างไรนั้น ได้เล่าขานกันต่อๆกันมาเป็นพุทธตำนานว่า ครั้งเมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จมานั่งฉันภัตตาหารบนแท่นหินใต้ร่มต้นพุทราที่เนินยอดเขาแห่งหนึ่ง (ปัจจุบันคือวัดพระแท่นศิลาอาสน์ พระอารามหลวง บ้านทุ่งยั้ง อ.ลับแล) ได้ให้พระอานนท์นำบาตรที่ทำความสะอาดแล้วนำไปแขวนตากลมไว้ใต้ต้นไม้แห่งนี้ น้ำล้างบาตรได้ไหลหยดลงพื้นดินทำให้ต้นพุทราแตกงอกออกใบ ออกดอก ออกผลเพราะได้รับน้ำและความชื้น  ต่อมาได้มีพระอริยสงฆ์เจ้าอีกหลายรูปที่ธุดงค์ผ่านมา ได้นำบาตรมาแขวนตากไว้กับกิ่งต้นพุทราเป็นสังฆกิจสืบต่อกันมานานนับพันปี และได้ขนานนามว่า พุทราแขวนบาตร วัดพระแท่นศิลาอาสน์ แห่งบ้านทุ่งยั้ง เมืองลับแล







Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.