เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



"สาววัย 37 ปี" ซิ่งกระบะบรรทุกคนงานไปเก็บผัก พุ่งอัดท้ายรถพ่วง ดับ 1 เจ็บ 14


4 ม.ค. 2566, 10:31



"สาววัย 37 ปี" ซิ่งกระบะบรรทุกคนงานไปเก็บผัก พุ่งอัดท้ายรถพ่วง ดับ 1 เจ็บ 14




วันนี้ 04 ม.ค. 66 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า เมื่อเวลา 05.30 น.ที่ผ่านมา บริเวณถนนสายกาญจนบุรี - บ้านเก่า ระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 9 ปากทางเข้าวัดเมตตาธรรม หมู่ที่ 7 บ้านพุประดู่ ตำบลหนองบัว อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี พันตำรวจโท สุคนธ์  รัสเอี่ยม พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจเมืองกาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ว่าเกิดอุบัติเหตุหมู่บริเวณดังกล่าว จึงแจ้งไปยังมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ เร่งออกไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บในเบื้องต้น

หลังจากนั้นได้รุดไปยังจุดเกิดเหตุ พบเพียงรถยนต์กระบะหมายเลขทะเบียน บท 5172 ปทุมธานี สภาพด้านหน้ารถพังยับเยิน เครื่องยนต์แตกกระจาย ส่วนรถคู่กรณีทราบว่าเป็นรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ บรรทุกอ้อย หลังเกิดเหตุได้หลบหนีไปแล้วก่อนที่จะมีเจ้าหน้าที่ไปถึง ชาวบ้านในระแวกนั้นก็ไม่ทราบว่าคันใด หมายเลขทะเบียนใด เนื่องจากเวลาเกิดเหตุเป็นช่วงเวลา 05.30 น. สภาพท้องฟ้ายังมืดมืดรวมถึงจุดเกิดเหตุก็มืดไม่มีแสงไฟส่องสว่างด้วย ตรวจสอบด้านกระบะหลังรถพบชายนอนเสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อ นายนฤสรณ์  นพคุณ อายุ 23 ปี บ้านอยู่ตำบลปนองปลาไหล อำเภอหนองปรือ จังหวัดกาญจนบุรี ส่วนผู้บาดเจ็บจำนวน 14 ราย เป็นเด็ก 2 ราย ทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ ได้เร่งลำเลียงส่งโรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนาไปทั้งหมดแล้ว

จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่า คนขับรถยนต์กระบะดังกล่าว คือนางสาวกิ่งกาญจน์ สระทองหน อายุ 37 ปี อาการสาหัสเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯต้องใช้อุปกรณ์ตัดถ่างนำร่างออกมาจากซากรถ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าคนขับน่าจะเกิดการหลับใน เนื่องจากดูสภาพของรถแล้วไม่มีร่องรอยเบรกแม้แต่น้อย ประกอบกับบริเวณดังกล่าวมืดมาก จึงอัดกับรถคันหน้าเข้าอย่างจัง ทำให้ผู้ที่โดยสารที่อยู่ท้ายกระบะกระเด็นออกจากตัวรถไปนอนเกลื่อนถนนดังกล่าว ส่วนสาเหตุแท้จริงต้องรอให้มีการสอบสวนผู้ที่โดยสารมาในรถ รวมถึง นางสาวกิ่งกาญจน์ คนขับเวลานี้อยู่ในห้องไอ ซี ยู เมื่อออกมาแล้วจะได้มีการสอบปากคำจึงทราบรายละเอียดการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ ส่วนร่างผู้เสียชีวิต ทางมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ ได้นำไปเก็บไว้ยังโรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา เพื่อรอญาติไปรับนำกลับไปบำเพ็ญกุศลต่อไป

สำหรับในช่วงเฝ้าระวัง 7 วัน อันตราย มียอดผู้เสียชีวิตไปแล้วจำนวน 6 ราย มีผู้บาดเจ็บอีกจำนวนมาก และเป็นการขับขี่รถจักรยานยนต์ที่เกิดอุบัติเหตุมากสุด ทางสำนักงานป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน จะทำการปิดศูนย์ พร้อมเปิดแถลงข่าวรายละเอียดครบ 7 วัน อย่างละเอียดให้ทราบต่อไป









Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.