เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



7 วันอันตรายวันที่ 3 ดับเพิ่ม 59 ราย จากเหตุขับรถเร็ว-เมาแล้วขับ ตามลำดับ


1 ม.ค. 2566, 14:41



7 วันอันตรายวันที่ 3 ดับเพิ่ม 59 ราย จากเหตุขับรถเร็ว-เมาแล้วขับ ตามลำดับ




วันนี้ ( 1 ม.ค.66 ) ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2566 สรุปสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 31 ธันวาคม 2565 เกิดอุบัติเหตุ 466 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 467 คน ผู้เสียชีวิต 59 ราย สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสมในช่วง 3 วันของการรณรงค์ (29 – 31 ธ.ค. 65) เกิดอุบัติเหตุรวม 1,183 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ รวม 1,182 ราย ผู้เสียชีวิต รวม 146 ราย จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต (ตายเป็นศูนย์) มี 18 จังหวัด ซึ่ง ศปถ. ได้กำชับดูแลกวดขันขับรถเร็ว - เมาแล้วขับ เน้นย้ำดำเนินมาตรการดูแลความปลอดภัยในการเดินทางอย่างต่อเนื่อง

นายโชตินรินทร์ เกิดสม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะประธานการประชุมคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนตลอดทั้งปี เปิดเผยว่า ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2566 โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและความร่วมมือของหน่วยงานภาคีเครือข่ายได้รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 31 ธันวาคม 2565 ซึ่งเป็นวันที่สามของการรณรงค์ “ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ” เกิดอุบัติเหตุ 466 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 467 คน ผู้เสียชีวิต 59 ราย สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขับรถเร็ว ร้อยละ 36.70 ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 30.04 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 82.56 ส่วนใหญ่เกิดบนเส้นทางตรง ร้อยละ 80.90 ถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 41.2 ถนนใน อบต./หมู่บ้านร้อยละ 34.55 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 18.01 – 19.00 น. ร้อยละ 7.74 ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุด อยู่ในช่วงอายุ 20 - 29 ปี ร้อยละ 19.39 จัดตั้งจุดตรวจหลัก 1,878 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 56,205 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 424,745 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดี รวม 67,203 ราย มีความผิดฐานไม่มีใบขับขี่ 18,964 ราย ไม่สวมหมวกนิรภัย 18,116 ราย ขับรถเร็วเกินกำหนด 8,497 ราย โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี (19 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี (20 คน) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ เชียงราย (7 ราย) สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสมในช่วง 3 วันของการรณรงค์ (29 – 31 ธ.ค. 65) เกิดอุบัติเหตุรวม 1,183 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ รวม 1,182 คน ผู้เสียชีวิต รวม 146 ราย จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต (ตายเป็นศูนย์) มี 18 จังหวัด จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุดได้แก่ สุราษฎร์ธานี (42 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ สกลนคร (46 คน) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงราย (10 ราย) จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต (ตายเป็นศูนย์) มี 18 จังหวัด 

อย่างไรก็ตาม วันนี้ (1 ม.ค.66) ยังอยู่ในช่วงเฉลิมฉลองต้อนรับเทศกาลปีใหม่ ประชาชนยังคงเดินทางท่องเที่ยวและทำบุญตามสถานที่ต่างๆ รวมถึงยังมีการจัดงานเฉลิมฉลองและงานรื่นเริงในพื้นที่ ศปถ. จึงได้เน้นย้ำให้จังหวัด อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินมาตรการดูแลความปลอดภัยในการเดินทางอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการบังคับใช้กฎหมายกวดขันผู้ขับขี่ที่ไม่มีใบอนุญาตขับรถ ขับรถเร็ว ดื่มแล้วขับ และกลุ่มผู้ใช้รถจักรยานยนต์ที่ไม่สวมหมวกนิรภัย สำหรับการดูแลความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนในพื้นที่ให้เจ้าหน้าที่ประจำด่านชุมชนเข้มข้นการเฝ้าระวัง ตรวจตรา และป้องปรามผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุในพื้นที่ รวมถึงเข้มข้นการดูแลเส้นทางสายรองที่เชื่อมต่อระหว่างหมู่บ้านและอำเภอ ซึ่งประชาชนใช้เป็นทางลัดออกสู่ถนนสายหลัก เพื่อป้องกันอุบัติเหตุทางถนนที่อาจเกิดขึ้น

นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ในฐานะเลขานุการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน เปิดเผยว่า ศปถ.ได้กำชับให้เข้มงวดกวดขันพฤติกรรมเสี่ยงเมาแล้วขับและขับรถเร็วบนเส้นทางสายหลักและสายรองในช่วงที่มีสถิติอุบัติเหตุสูง ส่วนเส้นทางโดยรอบสถานบันเทิงและสถานที่จัดงานรื่นเริง ให้จัดชุดสายตรวจดูแลความปลอดภัยของประชาชน และเน้นย้ำให้ด่านชุมชนปฏิบัติการเข้มข้นเพื่อป้องปรามผู้ขับขี่ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุ ทั้งนี้ ขอฝากประชาชนให้เฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ด้วยความไม่ประมาทและเพิ่มความระมัดระวังอุบัติภัยที่อาจเกิดขึ้น เพื่อให้เริ่มต้นปีใหม่ 2566 อย่างมีความสุขและปลอดภัย ท้ายนี้ หากประสบหรือพบเห็นอุบัติเหตุสามารถแจ้งเหตุได้ทางสายด่วน 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง และไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป 









Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.