จนท.นำเรือฝ่ากระแสคลื่น รับลูกเรือ-ศพ ลำเลียงกลับคืนฝั่งได้สำเร็จ
20 ธ.ค. 2565, 15:30

เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 20 ธ.ค. 65 น.อ.ชำนาญ สอนแพง ผอ.ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล จ.ชุมพร ภาค 1พร้อมด้วย นายคงศักดิ์ คงปาน หัวหน้าป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ชุมพร และเจ้าหน้าที่ประจำเรือตรวจการ ได้นำเรือตรวจการประมงทะเล 619 ฝ่ากระแสคลื่นลมเพื่อออกไปรับลูกเรืออนุภูมิ ซึ่งประสบเหตุเรืออับปาง จำนวน 10 คน ซึ่งได้รับบาดเจ็บหนัก 1 ราย และเสียชีวิต 1 ราย จากเรือน้ำมัน pattaravarin 88 ซึ่งได้ช่วยเหลือทั้งหมดได้ ก่อนล่องเรือมาจอดลอยลำอยู่หน้าเกาะเสม็ด ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.ชุมพร เพื่อรอให้ทาง จนท.ได้มาลำเลียงทั้งหมดขึ้นฝั่ง
ขณะที่นายสมพร ปัจฉิมเพ็ชร รอง ผู้ว่าฯจ.ชุมพร ซึ่งเดินทางมากำกับดูแลการลำเลียงลูกเรือของเรือสินค้าอนุภูมิ ด้วยตนเอง ได้สั่งการให้ทางผู้กำกับการตำรวจภูธร ต.ปากน้ำชุมพร นำพนักงานสอบสวน สภ.ปากน้ำ มาสอบปากคำเบื้องต้นควบคู่ไปกับทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปด้วย และได้สั่งการให้จัดกำลังเจ้าหน้าที่กู้ชีพกู้ภัย พร้อมรถพยาบาล จากมูลนิธิรักศีลธรรม จากมูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์และจาก รพ.ปากน้ำชุมพร รพ.ชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ จำนวน 10 คัน มาจอดรอเพื่อพร้อมที่ลำเลียงลูกเรือทั้งหมด ส่ง รพ.ปากน้ำชุมพรและ รพ.ชุมพรเขตรอุดมศักดิ์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่เรือตรวจการประมงทะเล 619 ได้ออกไป โดยใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง ก่อนกลับเข้ามาพร้อมลูกเรืออนุภูมิ ทั้งหมด เข้ามาเทียมท่าหน้าสำนักงานศูนย์ป้องกันและปราบปรามประมงทะเล จ.ชุมพร โดยชุดแรก ได้ลำเลียงผู้ได้รับบาดเจ็บ ที่มีอาการสาหัส ที่คาดว่าถูกกระแทกระหว่างกระโดดน้ำ 1 ราย ทราบชื่อคือ น.ส.แอ๊ด สุพรม เร่งนำตัวส่ง รพ.ชุมพรเขตรอุดมศักดิ์อย่างเร่งด่วน ก่อนจะลำเลียง อีก 8 คน ทราบชื่อคือ 1.นายสมาน ลัดดาแย้ม 2.สะระ มณีโชติ 3.นายธนพัน แกดีพันธ์ 4.นายฤทธิพร งามขำ 5.นายวรวุฒิ ช่วยชาติ 6.นายพงษ์ภานุ สวัสดิผล 7.นายสุรัช คำชื่น และ 8.นายไพรัช จินดาพล ซึ่งทั้ง 8 ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย เจ้าหน้าที่จึงนำทั้งหมดส่ง รพ.ปากน้ำชุมพร เพื่อตรวจร่างกายอย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนผู้เสียชีวิต ทราบชื่อ คือ นายพิทยา จิตรการณทีกิจ เจ้าหน้าที่ได้นำร่าง ส่ง รพ.ปากน้ำชุมพร เพื่อชันสูตรศพอย่างละเอียดถึงสาเหตุการเสียชีวิตในครั้งนี้ แล้วจะนำศพส่งไปยัง จ.สมุทรปราการ เพื่อให้กับทางญาติทำพิธีทางศาสนาต่อไป
นายสมพร ปัจฉิมเพ็ชร รอง ผู้ว่าฯจ.ชุมพร เปิดว่า การช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ เป็นไปด้วยความลำบากเนื่องจากคลื่นลมในทะเล มีความรุนแรงอย่างมาก โดยความเร็วลมเกินกว่า 10 น๊อต จึงไม่สามารถใช้ ฮ.ของตำรวจตระเวนชายแดน 41 จึงต้องรอห้วงเวลาที่คลื่นลมลดกำลังลง ที่พอจะนำเรือตรวจการประมงออกไปลำเลียงกลับขึ้นฝั่งได้ ซึ่งยอมรับว่าตลอดทั้งวันของเมื่อวาน หลังจากที่เกิดเหตุ ทางจังหวัด ได้ตั้งกองอำนวยการขึ้นเป็นการเฉพาะกิจเพื่อดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบเหตุจากภัยทางทะเล จนกระทั่งวันนี้ คลื่นลมได้ลดกำลังลง จึงสั่งการให้จัดกำลังพร้อมนำเรือออกไปปฏิบัติการลำเลียงผู้ประสบเหตุกลับมายังฝั่งอย่างเร่งด่วน ซึ่งผลก็เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
นายสมพร กล่าวว่า ต่อจากนี้ หลังจากที่ส่งผู้ประสบเหตุ ทั้งหมดตรวจร่างกายแล้ว ก็จะให้ทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้สอบปากคำสาเหตุการอับปางของเรือ ในส่วนการฝ่าฝืนประกาศนั้น น่าจะไม่เข้าข่าย เพราะประกาศนั้นออกมาว่าเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง ส่วนเรือขนาดใหญ่ เดินเรือด้วยความระมัดระวัง แต่ทั้งนี้ ก็ต้องสอบสวนหาข้อเท็จจริงรอบด้านต่อไป เบื้องต้น ได้ประกาศพื้นที่ที่เรือสินค้าอับปาง เป็นเขตอันตรายไว้ก่อน เพื่อป้องกันการเดินเรือของลำอื่น และได้สั่งการให้ทางเจ้าท่า ได้ตรวจสอบตู้สินค้า ว่ามีจมและลอย อยู่ตรงไหนอย่างไร ซึ่งเบื้องต้นทราบว่าเรือสินค้าที่อับปางบรรทุกตู้คอนเทรนเนอร์ภายในบรรจุไม้ยางพาราแปรรูป จำนวน 75 ตู้