เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



ชป.ยึด 10 มาตรการรองรับฤดูแล้ง ปี65/66 -เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำภาคใต้ต่อเนื่อง


1 ธ.ค. 2565, 16:57



ชป.ยึด 10 มาตรการรองรับฤดูแล้ง ปี65/66 -เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำภาคใต้ต่อเนื่อง




วันนี้ ( 30 พ.ย.65 ) ที่ห้องประชุม SWOC อาคาร 99ปี  หม่อมหลวงชูชาติ  กำภู  กรมชลประทาน  ดร.ทวีศักดิ์  ธนเดโชพล  รองอธิบดีกรมชลประทาน  พร้อมด้วย  ดร.ธเนศร์  สมบูรณ์  ผู้อำนวยการสำนักบริหารจัดการน้ำและอุทกวิทยา  นายเลอบุญ  อุดมทรัพย์  ผู้อำนวยการส่วนประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ   และผู้เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมคณะอนุกรรมการอำนวยการด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ โดยมี พลเอกประวิตร  วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี  เป็นประธานการประชุม  เพื่อติดตามสภาพอากาศ สถานการณ์น้ำ และการคาดการณ์ ตลอดจนผลดำเนินงานตามมาตรการรับมือฤดูฝนปี 65 ของศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคกลาง รวมทั้งความก้าวหน้าในการดำเนินการตามมาตรการรองรับฤดูแล้งปี 65/66 เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด 

ดร.ทวีศักดิ์  ธนเดโชพล  รองอธิบดีกรมชลประทาน  เปิดเผยว่า  จากสถานการณ์อุทกภัยในช่วงฤดูฝนที่ผ่านมา  ส่งผลให้มีหลายพื้นที่ในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  รวมทั้งภาคกลาง   ได้รับผลกระทบ   กรมชลประทาน  ได้ปฏิบัติตาม 13 มาตรการรับมือฤดูฝนปี65 อย่างเคร่งครัด พร้อมบริหารจัดการน้ำตามหลักวิศวกรรม เพื่อลดผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประชาชนให้ได้มากที่สุด  ซึ่งขณะนี้หลายพื้นที่ได้กลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว  และกำลังเข้าสู่ฤดูแล้ง กรมชลประทาน ได้ร่วมบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเข้าช่วยเหลือฟื้นฟูพื้นที่หลังประสบภัยให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ  พร้อมตรวจสอบอาคารชลประทาน  ระบบส่งน้ำต่างๆ   ให้สามารถส่งน้ำให้เกษตรกรได้เพาะปลูกต่อไปในช่วงฤดูแล้งนี้   รวมไปถึงวางแผนจัดสรรน้ำฤดูแล้งปี 65/66 ให้สอดคล้องตามปริมาณน้ำต้นทุน ตามลำดับความสำคัญ ได้แก่ อุปโภคบริโภค รักษาระบบนิเวศ  การเกษตร  อุตสาหกรรม และสำรองไว้ใช้ต้นฤดูฝนหน้า ตามลำดับ   ที่สำคัญได้เตรียมพร้อมรับมือฤดูแล้ง ตาม 10 มาตรการรองรับฤดูแล้งปี 65/66 ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.)  เห็นชอบอย่างเคร่งครัด เพื่อให้มีน้ำเพียงพอสำหรับทุกกิจกรรมตลอดช่วงฤดูแล้งนี้ 

สำหรับพื้นที่ภาคใต้ ที่ขณะนี้อยู่ในช่วงฤดูฝน กรมชลประทาน  ได้ติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด พร้อมวางแผนบริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องกับสถานการณ์  กำหนดพื้นที่เสี่ยง  จัดเตรียมเครื่องจักรเครื่องมือ  รวมทั้งเจ้าหน้าที่ประจำจุดเสี่ยงที่สามารถเข้าแก้ไขสถานการณ์ได้ในทันที ที่สำคัญได้ร่วมบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำการประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนถึงสถานการณ์น้ำให้ประชาชนรับทราบอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนปฏิบัติตาม 13 มาตรการรับมือฤดูฝน ที่กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด  เพื่อลดผลกระทบและบรรเทาปัญหาที่จะเกิดกับประชาชนให้ได้มากที่สุด

ในการนี้  พลเอก ประวิตร  วงษ์สุวรรณ  รองนายกรัฐมนตรี  ได้กำชับให้ทุกหน่วยงาน เฝ้าระวัง และติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่ภาคใต้อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยง รวมทั้งปฏิบัติตามกลไก แผนการระบายน้ำที่กำหนด  เพื่อลดผลกระทบกับประชาชนให้มากที่สุด พร้อมนำข้อมูลการบริหารจัดการน้ำในปีที่ผ่านมา มาปรับเป็นแนวทางในการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่อื่นๆ อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป  

สำหรับแนวทางแก้ไขปัญหาระยะเร่งด่วนในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาใหญ่ นั้น   ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มพื้นที่แก้มลิงรับน้ำให้มากขึ้น เพื่อลดปัญหาน้ำหลากพื้นที่ชุมชน  พื้นที่เศรษฐกิจ  และลดผลกระทบต่อพื้นที่ท้ายน้ำ รวมทั้งยังใช้เป็นแหล่งเก็บกักน้ำไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้ง ตามนโยบายของรัฐบาล พร้อมกันนี้ให้เร่งดำเนินการโครงการ 9 แผนหลักลุ่มเจ้าพระยาตอนล่าง ให้เป็นไปตามแผน เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากได้อย่างถาวร   รวมทั้งจัดทำแผนแนวทางแก้ไขปัญหาระยะเร่งด่วนในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาใหญ่ เพื่อเสนอคณะทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) เห็นชอบต่อไป









Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.