เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



นายกฯ มอบรางวัลองค์กรบริหารจัดการด้านการเงินการคลังเป็นเลิศ ปีงบฯ64


1 ธ.ค. 2565, 15:44



นายกฯ มอบรางวัลองค์กรบริหารจัดการด้านการเงินการคลังเป็นเลิศ ปีงบฯ64




วันนี้ ( 1 ธ.ค.65 ) เวลา 09.30 น. ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีและมอบรางวัลองค์กรที่มีความเป็นเลิศในการบริหารจัดการด้านการเงินการคลัง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ให้แก่หน่วยงานที่ผ่านการประเมินผลการปฏิบัติงานของหน่วยงานตามขั้นตอนการบริหารด้านการเงินการคลัง 5 มิติ ได้แก่ มิติด้านการจัดซื้อจัดจ้าง มิติด้านการเบิกจ่าย มิติด้านการบัญชีภาครัฐ มิติด้านการตรวจสอบภายในภาครัฐ และมิติด้านปลอดความรับผิดทางละเมิด จัดโดยกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง เพื่อส่งเสริมการปฏิบัติงานด้านการเงินการคลังในภาพรวมของส่วนราชการให้มีประสิทธิภาพ และมีความโปร่งใส ซึ่งเป็นการส่งเสริมการปฏิบัติงานด้านการเงิน การคลังในภาพรวมของประเทศ ให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ “กำกับดูแลและบริหารการใช้จ่ายเงินของแผ่นดิน ให้เกิดประโยชน์สูงสุด” รวมทั้งเป็นขวัญกำลังใจให้กับหน่วยปฏิบัติงานด้านการเงินการคลังให้เป็นที่ยอมรับและได้รับการยกย่อง โดยมี นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง คณะผู้บริหาร เจ้าหน้าที่กรมบัญชีกลางและกระทรวงการคลัง ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมงาน นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญดังนี้
 
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีมอบรางวัลองค์กรที่มีความเป็นเลิศในการบริหารจัดการด้านการเงินการคลัง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ซึ่งมีหน่วยงานที่ได้รับรางวัล จำนวน 44 หน่วยงาน และ 7 จังหวัด รวมทั้งสิ้น 103 รางวัล ประกอบด้วย 11 ประเภทรางวัล ได้แก่ 1. รางวัลประกาศเกียรติคุณด้านการจัดซื้อจัดจ้าง 2. รางวัลประกาศเกียรติคุณด้านการเบิกจ่าย 3. รางวัลประกาศเกียรติคุณด้านการบัญชีภาครัฐ 4. รางวัลประกาศเกียรติคุณด้านการตรวจสอบภายในภาครัฐ 5. รางวัลประกาศเกียรติคุณด้านปลอดความรับผิดทางละเมิด 6. รางวัลบุคคล/ทีมงานที่มีความเป็นเลิศในการบริหารจัดการด้านการเงินการคลัง 7. รางวัลองค์กรที่มีความเป็นเลิศรายด้าน 8. รางวัลประกาศเกียรติคุณหน่วยงานที่มีการพัฒนาการปฏิบัติงานด้านการเงินการคลัง 9. รางวัลประกาศเกียรติคุณส่งเสริมความเป็นเลิศในการบริหารจัดการด้านการเงินการคลัง 10. รางวัลองค์กรที่มีความเป็นเลิศในด้านบริหารจัดการด้านการเงินการคลัง (ถ้วยรวม) และ 11. ใบประกาศการผ่านเกณฑ์การประเมินมาตรฐานรางวัลองค์กรที่มีความเป็นเลิศในการบริหารจัดการด้านการเงินการคลัง ทั้งนี้ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีได้รับรางวัลประกาศเกียรติคุณด้านการจัดซื้อจัดจ้าง ระดับดี และรางวัลประกาศเกียรติคุณหน่วยงานที่มีการพัฒนาการปฏิบัติงานด้านการเงินการคลัง ส่วนราชการด้านการจัดซื้อจัดจ้าง โดยมีนางนิชา หิรัญบูรณะ ธุวธรรม รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายบริหาร เข้ารับมอบรางวัลจากนายกรัฐมนตรีด้วย
 
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีแสดงความยินดีและชื่นชมหน่วยงาน และผู้ที่ได้รับรางวัลอันทรงคุณค่า ที่สร้างความภาคภูมิใจให้แก่หน่วยงานของทุกคน พร้อมขอบคุณกรมบัญชีกลาง ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีส่วนสำคัญอย่างมากในการผลักดันให้หน่วยงานของรัฐปฏิบัติภารกิจไปในแนวทางเดียวกัน ตอบสนองนโยบายรัฐบาล และยุทธศาสตร์ชาติ ตลอดจนกำกับดูแลการบริหารจัดการ “ด้านการเงินการคลัง” ภาครัฐ ในภาพรวม เป็นไปอย่างถูกต้อง โปร่งใส ยึดหลักธรรมาภิบาล และมีประสิทธิภาพสูงสุด  เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติ และประชาชน ตลอดมา
 
พร้อมแสดงความเชื่อมั่นว่าการมอบรางวัลอันทรงเกียรตินี้จะเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจ ให้แก่ ผู้ปฏิบัติงาน ได้ยึดมั่นในความซื่อสัตย์สุจริต และความถูกต้องตามกฎ ระเบียบ กติกา อย่างเคร่งครัด อีกทั้งยังช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับส่วนราชการ ในการรักษาประสิทธิภาพการทำงาน ในระดับมาตรฐานที่สูง อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ในฐานะประชาชนทั่วไปย่อมคาดหวังที่จะเห็นส่วนราชการ และข้าราชการ ปฏิบัติภารกิจของตนอย่างเต็มกำลังความสามารถ ด้วยความสุจริต  ใช้งบประมาณแผ่นดินจากเงินภาษีทุกบาท ทุกสตางค์ อย่างมีประสิทธิภาพ ในการพัฒนาประเทศ และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ทั้งประเทศ
 
นายกรัฐมนตรีย้ำในฐานะนายกรัฐมนตรีผู้นำฝ่ายบริหารของประเทศ นอกจากจะคาดหวังให้ทุกส่วนราชการ และข้าราชการ ร่วมกันนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติ เพื่อขับเคลื่อนประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้า อย่างมั่นคงและยั่งยืน สมความคาดหวังของพี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศแล้ว ยังมุ่งหวังให้การบริหารงานการเงินการคลังภาครัฐ เป็นไปอย่างบูรณาการกัน โปร่งใสตรวจสอบได้ ลดความผิดพลาด ลดขั้นตอนที่ไม่จำเป็น สะดวกรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับทุกภาคส่วนของไทย ทั้งภาคธุรกิจและภาคประชาชน ตลอดจนเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทย ในสายตาประชาคมโลกอีกด้วย
 
นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังเน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานได้มุ่งมั่นตั้งใจ รักษาระดับมาตรฐาน “การบริหารจัดการด้านการเงินการคลัง” ของตน ให้มีประสิทธิผลสูงสืบเนื่องตลอดไป  และให้มีการถ่ายทอดองค์ความรู้ระหว่างหน่วยงาน เพื่อยกระดับมาตรฐานทุกหน่วยงานของประเทศ ไปสู่ความเป็นเลิศให้ได้ในที่สุด อันจะนำไปสู่การยกระดับประสิทธิภาพการทำงานของภาครัฐในภาพรวมต่อไป









Recommend News





MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.