เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



"บีโอไอ" เผย ! ผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้าจากทั่วโลก สนใจเข้าลงทุนที่ไทย หลังตลาดในประเทศเติบโตชัด


26 พ.ย. 2565, 14:05



"บีโอไอ" เผย ! ผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้าจากทั่วโลก สนใจเข้าลงทุนที่ไทย หลังตลาดในประเทศเติบโตชัด




วันที่ 26 พ.ย. 65 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากที่รัฐบาลกำหนดนโยบายให้การผลิตยานยนต์ไฟฟ้าเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมเป้าหมาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้ติดตามผลสัมฤทธิ์ของนโยบายอย่างต่อเนื่อง และพอใจกับแนวโน้มการเติบโตของตลาดยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศที่เกิดขึ้นในขณะนี้

โดยสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ได้รายงานว่าตั้งแต่รัฐบาลได้ประกาศมาตรการส่งเสริมการลงทุนยานยนต์ไฟฟ้าได้มีผู้ผลิตรถยนต์ทั่วโลกให้ความสนใจประเทศไทย ประกอบกับไทยเป็นฐานผลิตยานยนต์ทั้งรถยนต์นั่ง กระบะ จักรยานยนต์ ที่สำคัญของโลกอยู่แล้ว ซึ่งผู้ผลิตหลายรายทั้งรถยนต์ไฟฟ้าและชิ้นส่วนได้ยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนเข้ามายังบีโอไอ และขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาพูดคุยกับผู้ผลิตรถยนต์หลายราย จากทั้ง จีน ญี่ป่นและยุโรป ที่ให้ความสนใจมาลงทุนในไทยด้วย



น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ข้อมูลของบีโอไอแสดงให้เห็นว่านอกจากนโยบายส่งเสริมการลงทุนที่ชัดเจนแล้ว ความต้องการและตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่เติบโตอย่างรวดเร็วในไทยเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ดึงดูดผู้ผลิตรถยนต์ แบตเตอรี่ ชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้า สนใจเลือกประเทศไทยเป็นฐานผลิตเพื่อขายในไทยและส่งออกไปทั่วโลก

ล่าสุด กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ได้รายงานว่า 10 เดือนแรกของปี 2565 (ม.ค.-ต.ค.)  ทั่วประเทศมียานยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (BEV)  จดทะเบียนใหม่ 15,258 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 230.62 โดยส่วนใหญ่เป็นรถยนต์นั่ง และจักรยานยนต์ ที่ 7,046 คัน และ 7,534 คัน ตามลำดับ ส่วนที่เหลือเป็นรถอื่นๆ เช่น รถโดยสาร รถกระบะ รถบรรทุก รถแวน รถสามล้อ เป็นต้น

เมื่อรวมกับส่วนที่ทยอยจดทะเบียนมาตั้งแต่รัฐบาลเริ่มมีนโยบายส่งเสริมการใช้และผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศแล้ว ณ สิ้นเดือน ต.ค. 65 มียานยนต์ไฟฟ้าประเภท BEV จดทะเบียนสะสมทั้งสิ้น 26,527 คัน เพิ่มขึ้นจาก ณ ต.ค. 64  ร้อยละ 162.25 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรถยนต์นั่ง 11,025 คัน และจักรยานยนต์ 14,170 คัน  ส่วนที่เหลือเป็นยานยนต์ประเภทอื่นๆ


“นายกรัฐมนตรีพอใจกับการเติบโตของตลาดยานยนต์ไฟฟ้าในขณะนี้ ซึ่งส่วนสำคัญมาจากมาตรการภาษีและไม่ใช่ภาษีที่รัฐบาลออกเพื่อกระตุ้นความต้องการในประเทศ โดยมีผลตอบรับเป็นอย่างดี เห็นได้จากกระแสความสนใจของประชาชนต่อยานยนต์ไฟฟ้ารุ่นต่างๆ ที่ผู้ผลิตเสนอออกสู่ตลาด”น.ส.ไตรศุลี กล่าว

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ตามแผนงานปี 2566 ที่บีโอไอจะมีกิจกรรมชักจูงการลงทุนจากต่างประเทศทุกรูปแบบและช่องทางรวมกว่า 200 ครั้ง นายกรัฐมนตรีได้กำชับให้เสนออุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมหลัก เร่งให้ข้อมูลนักลงทุนได้ทราบถึงสิทธิประโยชน์ต่างๆ ครอบคลุมทั้งด้านภาษีและไม่ใช่ภาษีเพื่อตัดสินใจเลือกไทยเป็นฐานผลิตหลักให้ได้

ทั้งนี้ การขับเคลื่อนนโยบายอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของไทยปัจจุบันอยู่ภายใต้คณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ หรือคณะกรรมการ EV  ซึ่งนโยบายของคณะกรรมการฯ ได้นำไปสู่การออกทั้งมาตรการกระตุ้นความต้องการสร้างตลาดในประเทศ และมาตรการส่งเสริมการลงทุนของบีโอไอเพื่อให้สิทธิประโยชน์แก่ผู้ผลิต รถยนต์ รถโดยสาร จักรยานยนต์ เรือไฟฟ้า ผู้ผลิตชิ้นส่วน และแบตเตอรี่ รวมถึงมาตรการเสริมของหน่วยงานอื่นๆ เพื่อดึงดูดผู้ผลิตเข้ามาตั้งฐานการผลิตในประเทศไทยอย่างครบวงจร  โดยมีเป้าหมายว่าภายในปี 2573 (ค.ศ.2030)  ประเทศไทยจะมีการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าร้อยละ 30 ของการผลิตยานยนต์ในประเทศ






Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.