เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



ผบช.ภาค 7 ฝ่ายปกครอง จนท. ปปส.ภาค 7 ทหารกองกำลังสุรสีห์ แถลงจับกุมแก๊งค้ายาเสพติด อาวุธปืนอีกจำนวนมาก


4 พ.ย. 2565, 15:45



ผบช.ภาค 7 ฝ่ายปกครอง จนท. ปปส.ภาค 7  ทหารกองกำลังสุรสีห์ แถลงจับกุมแก๊งค้ายาเสพติด อาวุธปืนอีกจำนวนมาก




วันนี้ 04 พ.ย. 2565 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่หน้ากองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี พลตำรวจโท ธนายุตม์  วุฒิจริสดำรงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภาค 7 พร้อมด้วย นายกองเอกพงศธร ศิริสาคร รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี พลตำรวจตรี ไพโรจน์  คุ้มภัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี หน่วยงานทหารกองกำลังสุรสีห์กาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ปราบปรามยาเสพติดภาค 7  และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมกันแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาคดีค้ายาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี จำนวน 2 ราย

 

พร้อมของกลางยาบ้า จำนวนประมาณ 342,000 เม็ดยาไอซ์ น้ำหนักรวมประมาณ 5 กิโลกรัม เฮโรอีน จำนวน 9 แท่ง ยาเค น้ำหนักรวมประมาณ 1,258 กรัม อาวุธปืนยาวไทยประดิษฐ์ จำนวน 1 กระบอก อาวุธปืนพกสั้น ยี่โคล์ท ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก รถยนต์เก๋ง โตโยต้า รุ่นวีออส สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน กม 9362 กาญจนบุรี จำนวน 1 คัน รถยนต์กระบะแค็ป อีซุซุ ดีแม็ก สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน บว 6403 กาญจนบุรี จำนวน 1 คัน

 

จากการร่วมกันจับกุมได้ผู้ต้องหา จำนวน 2 ราย ได้แก่ นายรัฐพลหรือครีม หนูขาว อายุ 25 ปี (ผู้ต้องหาที่ 1) ในข้อหา ร่วมกันจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) (เฮโรอีน) (ไอซ์) และยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (เคตามีน) โดยไม่ได้รับอนุญาตอันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และมีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนผู้ที่ต้องหา รายที่ 2 คือนางสาวกนกพรหรือแพรว กำเนิดทรัพย์ อายุ 24 ปี กระทำความผิดในข้อหาร่วมกันจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) (เฮโรอีน) (ไอซ์) และยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (เคตามีน) โดยไม่ได้รับอนุญาตอันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน

 

โดยก่อนเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการสืบสวนปราบปรามจับกุมขยายผลผู้มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติดทั้งผู้เสพและผู้ค้าในพื้นที่ จนทราบว่าผู้ต้องหาที่ 1, 2 มีพฤติกรรมลักลอบจำหน่ายยาเสพติดจึงได้นำเรียนผู้บังคับบัญชาเพื่อวางแผนทำการล่อซื้อเพื่อทำการจับกุม ต่อมาวันที่ 2 พ.ย. 65 เวลาประมาณ 19.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้สืบสวนขยายผล และได้ทําการล่อซื้อยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) จำนวน 10,000 เม็ด ในราคา 13,000 บาท โดยนัดหมายให้นำมาส่งบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 1 ถนนกาญจนบุรี-บ่อพลอย (บ้านท่าพะเนียด)

 

เมื่อถึงเวลานัดหมาย ผู้ต้องหาที่ 1 ขับรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีบรอนทอง หมายเลขทะเบียน กม 9362 กาญจนบุรีโดยมีผู้ต้องหาที่ 2 นั่งมาด้วย มาส่งยาบ้า จำนวน 10,000 เม็ด บริเวณที่นัดหมาย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัวเพื่อตรวจค้นจับกุม แต่ผู้ต้องหาทั้ง 2 ได้พยายามขับขี่รถยนต์หลบหนี โดยระหว่างหลบหนี ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ได้โยนยาบ้าทิ้งออกจากตัวรถอีก จํานวน 70,000 เม็ด เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามอย่างกระชั้นชิดและใช้ยุทธวิธีจนสามารถหยุดรถ และจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 คนได้

 

จากการสอบถามผู้ต้องหาที่ 1 ยังรับอีกว่ามียาเสพติดซุกซ่อนอยู่ที่บริเวณไร่ตรงข้ามบ้านของผู้ต้องหาเป็นจํานวนมาก และได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมไปทำการตรวจค้นเพิ่มเติม จนสามารถตรวจยึดยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า ยาไอซ์ และเฮโรอีน) พร้อมทั้งอาวุธปืนอีกจำนวน 2 กระบอก นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย

 

จากนั้นได้สืบสวนขยายผลยึด และอายัดทรัพย์สินที่มีเหตุอันควรสงสัยว่าเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทําความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดตาม พรบ.วิธีพิจารณาคดียาเสพติด ฯ โดยสามารถยึดทรัพย์สิน ได้แก่ เงินสด จํานวน 30,000 บาท สร้อยคอลักษณะคล้ายทองพร้อมจี้พระ น้ำหนักประมาณ 17.1 กรัม จำนวน ๑ เส้น สร้อยข้อมือลักษณะคล้ายทอง น้ำหนักประมาณ 30.4 กรัม จํานวน 1 เส้น สร้อยข้อมือลักษณะคล้ายทอง น้ำหนักประมาณ 7.6 กรัม จำนวน 1 เส้น สร้อยข้อมือลักษณะคล้ายทอง น้ำหนักประมาณ 7.6 กรัม จำนวน 1 เส้น แหวนลักษณะคล้ายทอง น้ำหนักประมาณ 7.6 กรัม จำนวน 1 วง

 

รถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อโตโยต้า หมายเลขทะเบียน กม 9362 กาญจนบุรี จำนวน 1 คัน รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล ยี่ห้ออีซูซุ เลขทะเบียน บว 6403 กาญจนบุรี จำนวน 1 คันรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า หมายเลขทะเบียน กลจ 503 กาญจนบุรี จำนวน 1 คันรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า CRF300L (ยังไม่ได้รับแผ่นทะเบียน) จำนวน 1 คัน โค พันธุ์ชาโลเล่ จำนวน 2 ตัว โค พันธุ์บรามัน จำนวน 10 ตัว รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ยึด 960,000 บาท และสามารถอายัดเงินในบัญชีธนาคาร จำนวน 287,677 บาท รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ยึด และอายัด รวม 1,247,677 บาท

 

นอกจากนี้ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ได้สรุปผลการจับกุมผลการปฏิบัติการในการระดมกวาดล้างอาชญากรรมตามนโยบาลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้มีการระดมกวาดล้างในห้วงระหว่างวันที่ 10 ตุลาคม -8 พฤศจิกายน 2565 ได้ผู้กระทำความผิดจำนวน 1,945 ราย 1,988 คน แยกเป็นความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด 1,317 ราย ผู้ต้องหา 1,320 คน

 

ของกลาง ยาบ้า 451,848 เม็ด ยาไอซ์ 4,963 กรัม เฮโรอีน 11,811.10 กรัม เคตามีน 1,258 กรัม ความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน 218 ราย ผู้ต้องหา 218 คน ของกลาง อาวุธปืน165 กระบอก เครื่องกระสุนปืน 469 นัด และผลการจับกุมบุคคลตามหมายจับ 299 หมาย ผู้ต้องหา 299 คน ความผิดเกี่ยวกับ พรบ.การพนัน 25 ราย 65 คน ความผิดเกี่ยวกับ พรบ.ต่างด้าว86 ราย 86 คน

 

พลตำรวจโท ธนายุตม์  วุฒิจรัสดำรงค์ ผู้บัญชาการภาค  7 ได้กล่าวเป็นนโยบายเน้นหนักจากรัฐบาลได้สั่งการณ์มายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ระดมการกวาดล้างอาวุธปืน ยาเสพติดทุกชนิด เนื่องจากเกิดสถานการณ์ที่จังหวัดหนองบัวลำภู เกิดขึ้น ทางตภรวจภูธรภาค 7 ได้เปิดยุทธการพิชิตคนพาน พิบาลคนดี โดยเปิดยุทธการณ์ตั่งแต่เดือน ต.ค. 65 ไปสิ้นสุดปลายเดือน พ.ย. 65 โดยครั้งนี้ได้จับยาเสพติดรายใหญ่ อีกทั้ง ปปส.ภาค 7 ได้มีการขึ้นบัญชีบุคคลที่มีหมายจับ ที่ได้หลบหนีออกไปอยู่ประเทศเพื่อนบ้าน โดยทาง ปปส.ได้ตั้งรางวัลนำจับไว้ถึง 1 ล้านบาท ได้มีการประสานไปยังเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยหมดแล้ว แล้วยังมีผู้เกี่ยวข้องอีกหลายคน ได้สั่งการณ์ในที่ประชุมไปหมดแล้วเราจะไม่ปล่อยให้ขบวนการเหล่านี้อยู่อย่างเป็นสุข จะไล่ล่าทั้งหมดตามหมายศาลที่ออกมา ถือว่าเป็นรายสำคัญ การจับกุมแค่ปลายเหตุ แต่การปราบปรามเป็นเรื่องสำคัญ ภาค 7 ส่งสัญญาณให้ผู้ค้าว่า ได้รับคำสั่งจากหน่วยหนือให้เข็มงวดให้หยุดกระทำเสียไม่เช่นนั้นจะดำเนินการขั้นเด็ดขาด...... ผบช. ภาค 7 กล่าวทิ้งท้าย........./

 



 


 






Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.