เมื่อวันที่ 22 ก.ย. 62   ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า  จากการที่ช่วงนี้ได้มีฝนตกหนักต่อเนื่องในเขตพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตามเขตพื้นที่ตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชา  มีปริมาณน้ำฝนวัดได้ ๑๐๕ มม.  ส่งผลให้มีน้ำป่าจากเทือกเขาพนมดงรักไหลทะลักลงมาสู่อ่างเก็บน้ำทั้ง 4 แห่งของ จ.ศรีสะเกษ ที่อยู่ตามแนวชายแดน ในเขต อ.ภูสิงห์ ประกอบด้วย 1.อ่างเก็บน้ำห้วยตึ๊กชู  ปริมาณน้ำในอ่างปัจจุบัน 26. 632 ลูกบาศก์เมตร มีน้ำล้น สปิลเวย์ ประมาณ 5 ซม. ไม่มีผลกระทบต่อพื้นที่ทางการเกษตรและบ้านเรือนของชาวบ้านแต่อย่างใด  2.อ่างเก็บน้ำห้วยศาลา ปริมาณน้ำในอ่างปัจจุบัน 18. 315 ลูกบาศก์เมตร น้ำยังไม่ล้นสปริงเวย์  3.อ่างเก็บน้ำห้วยสำราญ  ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำปัจจุบัน 5.920 ลูกบาศก์เมตร น้ำยังไม่ล้นสปิลเวย์ และ 4.อ่างเก็บน้ำโอตาลัต   ปริมาณน้ำในอ่างปัจจุบัน 1.880 ลูกบาศก์เมตร ระดับน้ำฝนวัดได้สูงสุดที่บ้านสันติสุข ม.8 ต.ดงรัก จำนวน 105 มิลลิเมตร  โดยขณะนี้ฝนหยุดตกแล้ว แต่ยังมีมวลน้ำไหลลงสู่อ่างเก็บน้ำอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลดีต่อปริมาณกักเก็บน้ำในอ่างเก็บน้ำทั้ง 4 แห่งเพิ่มมากขึ้น  ไม่มีผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนแต่อย่างใด  ทั้งนี้ อ.ภูสิงห์ได้เน้นย้ำกำชับให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้านประกาศแจ้งเตือนพี่น้องประชาชน พร้อมสั่งการให้ส่วนราชการ อปท.ในพื้นที่เตรียมความพร้อมเมื่อได้รับการประสานงาน  ซึ่งจุดที่ต้องเฝ้าระวังคืออ่างเก็บน้ำห้วยศาลา เนื่องจากว่า มวลน้ำป่าจากเทือกเขาพนมดงรักเริ่มไหลแรงมากขึ้น

 

นายสุรชาติ  ชาญประดิษฐ์  ส.ส.ศรีสะเกษ เขต 2 พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า  จากการที่ขณะนี้ได้เกิดน้ำท่วมในเขต ต.โนนสัง และอีกหลายตำบลของ อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ ตนพร้อมด้วย  นายทองวรรณ   จิตโชติ อดีตนายก อบต.โนนสัง  และคณะได้เข้าไปเยี่ยมและให้กำลังใจแก่ประชาชนทุกหมู่บ้านในเขต อ.กันทรารมย์  ที่ถูกน้ำท่วม  ซึ่งพบว่า มีบ้านเรือนไร่นาของพี่น้องประชาชนถูกน้ำท่วมจำนวนมาก  ไร่นาข้าวถูกน้ำท่วมเสียหาย เนื่องจากว่า ถูกน้ำท่วมนานกว่า 10 วันแล้ว วัดหลายแห่งในหมู่บ้านถูกน้ำท่วม  ทำให้พระสงฆ์และประชาชนได้รับความเดือดร้อน ซึ่งตนมีความห่วงใยพี่น้องประชาชนเป็นอย่างมาก  ดังนั้น  ตนและคณะจึงได้ร่วมกันบริจาคเงินจัดซื้อข้าวสาร อาหารแห้งและน้ำดื่ม รวมทั้งจัดทำอาหารไปบริจาคแจกจ่ายให้การช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น  ซึ่งตนจะได้ประสานงานกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเพื่อจะได้เร่งดำเนินการเข้าไปให้การช่วยเหลือเยียวยาพี่น้องประชาชนในเขต อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ ที่ประสบภัยน้ำท่วมอย่างเร่งด่วนต่อไป

นายบุญประสงค์   นวลสายย์  หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ศรีสะเกษ เปิดเผยว่า สถานการณ์ปัจจุบัน ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่  2 อำเภอ ดังนี้ 1.อ.กันทรารมย์ 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน ได้แก่ ต.ทาม ราษฎรพักอาศัยอยู่ศูนย์พักพิง จำนวน 4 ครัวเรือน 14 คน ไม่มีพื้นที่เศรษฐกิจได้รับผลกระทบ หากไม่มีมวลน้ำมาสมทบ คาดว่าจะอพยพกลับที่พักอาศัยได้ ภายใน 1 สัปดาห์  2. อ.เมืองศรีสะเกษ  1 เทศบาลเมือง 2 ชุมชน ได้แก่ ชุมชนหนองหมู และชุมชนโนนงาม จำนวนราษฎรพักอาศัยอยู่ศูนย์พักพิง จำนวน 38 ครัวเรือน 152 คน ไม่มีพื้นที่เศรษฐกิจได้รับผลกระทบแต่อย่างใด  มีผู้เสียชีวิตจากอุทกภัย จำนวน 3 ราย ดังนี้  1.นายสัญจร คำเลิศ อายุ 54 ปี (ภูมิลำเนาเดิม  ที่อยู่ 82 หมู่ที่ 11 ตำบลบุ่งหวาย อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี) ปัจจุบันอยู่บ้านเจี่ย หมู่ที่ 2  ต.ทาม  อ.กันทรารมย์  จ.ศรีสะเกษ  สาเหตุ ผู้เสียชีวิตและภรรยาพายเรือไปเก็บอุปกรณ์ทางการเกษตร แต่เนื่องจากน้ำไหลเชี่ยวทำให้เรือล่ม จึงทำให้นายสัญจรจมน้ำเสียชีวิต 2. นายประสิทธิ์ เวียงคำ อายุ ประมาณ 52 ปี อยู่บ้านขาม ม.3 ต.บัวน้อย อ.กันทรารมย์  จ.ศรีสะเกษ สาเหตุ เวลาประมาณ 16.00 น. ( วันที่ 11 ก.ย.2562 ) ผู้เสียชีวิตได้ออกไปกู้เรือพายขึ้นจากน้ำ น้ำเอ่อล้นไหลเชี่ยวแรง เป็นเหตุให้จมน้ำเสียชีวิต ที่บริเวณข้างโรงเรียนบัวน้อย ต.บัวน้อย อ.กันทรารมย์  และ 3.นายบุญชู นารีโภชน์ อายุ 40 ปี ภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 160 ม.1 ต.ห้วยขะยุง  ม.6  อ.วารินทร์ชำราบ  จ.อุบลราชธานี สาเหตุ พลัดตกน้ำบริเวณคอสะพานห้วยขะยุง ม.11 ต.หนองหัวช้าง อ.กันทรารมย์ เป็นเหตุให้เสียชีวิต ซึ่งนายวีระศักดิ์   วิจิตร์แสงศรี ผวจ.ศรีสะเกษ ได้สั่งการให้ตนช่วยเหลือตามระเบียบของทางราชการแล้ว