ที่วัดบ้านหนองห้าง ตำบลปะหลาน อำเภอพยัคฆภูมิพิสัย จังหวัดมหาสารคาม นายเกียรติศักดิ์  ตรงศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม  เป็นประธานในพิธีส่งมอบหญ้าอาหารสัตว์พระราชทาน เพื่อให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบอุทกภัย  ในพื้นที่อำเภอพยัคฆภูมิพิสัย  จากฝนที่ตกหนักในพื้นที่ในช่วงที่ผ่านมา  ส่งผลให้เกิดน้ำท่วม  หญ้าอาหารสัตว์ขาดแคลน  พร้อมกับมอบถุงยังชีพปศุสัตว์ให้กับเกษตรกรผู้ประสบภัย

นายวรกร  อินทแพทย์  ปศุสัตว์จังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า  ในช่วงที่ผ่านมาเกิดฝนตกหนักในอำเภอพยัคฆภูมิพิสัย  ประกอบมีลำเอ่อล้นลำห้วยสาขาต่าง ๆ และมีน้ำเหนือมาหลากมาจากพื้นที่ข้างเคียง  ส่งผลให้มีพื้นที่ประสบอุทกภัย 7 ตำบล 19 หมู่บ้าน  เกษตรกรได้รับความเดือดร้อน 175 ราย  โค-กระบือจำนวน 859 ตัว

โดยเฉพาะที่บ้านหนองห้าง  หมู่ 3  ต.ปะหลาน  อ.พยัคฆภูมิพิสัย  มีเกษตรกรจำนวน 65 ราย  มีโค 324 ตัว  กระบือ 105 ตัว  พื้นที่หมู่บ้านถูกล้อมรอบไปด้วยน้ำ  ซึ่งผลกระทบต่อการเลี้ยงสัตว์  แหล่งอาหารธรรมชาติขาดแคลน  สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดมหาสารคามจึงได้ส่งมอบหญ้าอาหารสัตว์พระราชทานจำนวน 8,000 กิโลกรัม  และถุงยังชีพปศุสัตว์จำนวน 65 ชุด  ให้แก่เกษตรกรผู้ประสบภัย  เพื่อช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อน  โดยหญ้าที่นำส่งมอบเป็นหญ้าแพงโกล่า  ที่มีธาตุอาหาร  เสริมสร้างความแข็งแรงให้กับสัตว์เลี้ยง

อย่างไรก็ตาม  สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดมหาสารคาม  ได้สำรองหญ้าอาหารสัตว์ไว้จำนวน 27 ตัน  เพื่อเตรียมรับสถานการณ์อุทกภัยที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่ติดริมฝั่งแม่น้ำชี 4 อำเภอ  ได้แก่  อำเภอเชียงยืน  โกสุมพิสัย  กันทรวิชัย  และอำเภอเมืองมหาสารคาม  ซึ่งขณะนี้แม่น้ำชีมีแนวโน้มที่เพิ่มสูงขึ้น  ซึ่งหากไม่เพียงพอก็สามารถร้องขอเพิ่มเติมได้

นายวีระพล  ตรีวิเศษ  ชาวบ้านหนองห้าง  หมู่ 3  ต.ปะหลาน  อ.พยัคฆภูมิพิสัย  จ.มหาสารคาม  กล่าวว่า  ตนเองเลี้ยงวัว 8 ตัว  ปกติจะปล่อยวัวไปกินหญ้าที่สวนหลังบ้านพื้นที่ 3 ไร่  แต่ตอนนี้น้ำท่วมหมดแล้ว  ทำให้ต้องทำคอกใหม่ที่ริมถนน  เพื่อให้วัวมาอาศัยชั่วคราว  จากน้ำที่ท่วมขังเป็นเวลานาน  ทำให้วัวไม่มีหญ้าสดกิน  เพราะบริเวณนี้น้ำท่วมทั้งหมด  ให้กินแต่ฟางก้อน  ราคาฟางก้อนก็ขึ้นราคาจากก้อนละ 30 บาท  เป็นก้อนละ 50 บาท  อีกทั้งยังหาซื้อยาก  หากน้ำท่วมนาน  วัวไม่มีหญ้าสดกิน  ก็จะทำให้วัวเกิดความเครียด  ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ  อาจมีโรคต่าง ๆ ตามมาได้  หากได้หญ้าจากปศุสัตว์มา  ก็จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นได้  แต่ในระยะยาวก็อยากให้น้ำลดลงเร็ว ๆ เพื่อที่จะได้กลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ