เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



ปภ. ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม 17 จังหวัด ประสานจังหวัดเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่


14 ก.ย. 2565, 11:32



ปภ. ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม 17 จังหวัด ประสานจังหวัดเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่




วันที่ 14 ก.ย. 65 เวลา 11.00 น. ปภ.รายงานยังคงมีสถานการณ์น้ำท่วม 17 จังหวัด รวม 49 อำเภอ 190 ตำบล 988 หมู่บ้าน โดยสถานการณ์ฝนตกหนักช่วงวันที่ 4 - 14 ก.ย.65 ทำให้ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่รวม 14 จังหวัด ได้แก่ ลำพูน ลำปาง พะเยา ตาก หนองบัวลำภู ขอนแก่น กาฬสินธุ์ เลย ปทุมธานี สมุทรปราการ สระแก้ว ระยอง ชลบุรี และจันทบุรี ขณะที่ผลกระทบจากน้ำล้นตลิ่ง (ยังมีสถานการณ์น้ำท่วมใน 4 จังหวัด ได้แก่ อุบลราชธานี พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง และปทุมธานี ภาพรวมระดับน้ำลดลง ทั้งนี้ ปภ. ได้ประสานจังหวัดเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขังและดูแลผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง 

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานอิทธิพลร่องมรสุมจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคกลางตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ทำให้มีฝนเพิ่มขึ้นและฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง น้ำล้นตลิ่ง โดยตั้งแต่วันที่ 4 - 14 ก.ย. 65 มีพื้นที่ประสบอุทกภัยรวม 32 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ แพร่ ลำปาง ลำพูน พะเยา น่าน สุโขทัย ตาก พิษณุโลก เพชรบูรณ์ เลย อุดรธานี หนองบัวลำภู ชัยภูมิ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มหาสารคาม บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ สมุทรปราการ สุพรรณบุรี อุทัยธานี ปทุมธานี นนทบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด และตรัง รวม 87 อำเภอ186 ตำบล 741 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 116,833 ครัวเรือน ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ 14 จังหวัด ได้แก่ ลำพูน ลำปาง พะเยา ตาก หนองบัวลำภู ขอนแก่น กาฬสินธุ์ เลย ปทุมธานี สมุทรปราการ สระแก้ว ระยอง ชลบุรี และจันทบุรี รวม 37 อำเภอ 78 ตำบล 382 หมู่บ้าน ภาพรวมระดับน้ำลดลง ดังนี้



1. ลำพูน เกิดน้ำไหลหลากในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอบ้านโฮ่ง อำเภอบ้านธิ และอำเภอเมืองลำพูน รวม 6 ตำบล 8 หมู่บ้าน 
2. ลำปาง เกิดน้ำท่วมขังในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเกาะคา อำเภอเมืองลำปาง อำเภอวังเหนือ อำเภอห้างฉัตร และอำเภอสบปราบ รวม 7 ตำบล 9 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 8 หลังคาเรือน 
3. พะเยา เกิดน้ำไหลหลากในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอจุน และอำเภอดอกคำใต้ รวม 3 ตำบล 
9 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 50 หลังคาเรือน 
4. ตาก เกิดน้ำท่วมในพื้นที่อำเภอสามเงา รวม 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 75 หลังคาเรือน 
5. กาฬสินธุ์ เกิดน้ำท่วมขังในพื้นที่ตำบลลำชี อำเภอฆ้องชัย ความเสียหายอยู่ระหว่างการสำรวจ 
6. ขอนแก่น เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอหนองสองห้อง อำเภอมัญจาคีรี และอำเภอ
แวงใหญ่ รวม 3 ตำบล 6 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 10 หลังคาเรือน 
7. หนองบัวลำภู เกิดน้ำท่วมขังในพื้นที่อำเภอเมืองหนองบัวลำภู รวม 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 3 หลังคาเรือน 
8. เลย เกิดน้ำท่วมในพื้นที่อำเภอเมืองเลย รวม 3 ตำบล 3 หมู่บ้าน ความเสียหายอยู่ระหว่างการสำรวจ
9. ปทุมธานี เกิดน้ำท่วมขังในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอลำลูกกา อำเภอธัญบุรี และอำเภอคลองหลวง รวม 3 ตำบล 3 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 55,165 ครัวเรือน 
10. สมุทรปราการ เกิดน้ำท่วมขังในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอบางบ่อ อำเภอบางเสาธง และอำเภอบางพลี รวม 18 ตำบล 199 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 55,572 ครัวเรือน
11. ระยอง เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอแกลง อำเภอเมืองระยอง อำเภอบ้านฉาง อำเภอบ้านค่าย อำเภอนิคมพัฒนา และอำเภอเขาชะเมา รวม 9 ตำบล 25 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 
4 ครัวเรือน
12. จันทบุรี เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเขาคิชฌกูฎ อำเภอท่าใหม่ อำเภอนายายอาม อำเภอแก่งหางแมว และอำเภอมะขาม รวม 19 ตำบล 101 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 873 ครัวเรือน
13. สระแก้ว เกิดน้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่อำเภอเมืองสระแก้ว รวม 2 ตำบล 2 หมู่บ้าน 
14. ชลบุรี เกิดน้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอศรีราชา และอำเภอบางละมุง รวม 2 ตำบล 14 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 150 ครัวเรือน


ขณะที่สถานการณ์น้ำล้นตลิ่งจากสถานการณ์มรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก และปริมาณน้ำในแม่น้ำสายหลัก ลำน้ำสาขามีปริมาณมาก ส่งผลให้น้ำล้นตลิ่งในหลายพื้นที่ ล่าสุดวันนี้ (14 ก.ย.65) ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ อุบลราชธานี พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง และปทุมธานี (อำเภอเมืองปทุมธานี อำเภอสามโคก) รวม 12 อำเภอ 112 ตำบล 606 หมู่บ้าน ภาพรวมระดับน้ำลดลง

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดได้ประสานจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่และให้การดูแลช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง สำหรับพื้นที่ที่สถานการณ์อุทกภัยคลี่คลายแล้วได้จัดเจ้าหน้าที่เข้าสำรวจประเมินความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ต่อไป 

ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัย สามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับ แจ้งเหตุ 1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ ประชาชนยังสามารถติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัยได้ที่แอปพลิเคชัน “THAI DISASTER ALERT”






Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.