เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



ศาลยกฟ้อง ! "คดียาเสพติดนายสุรัช" เหยื่อซ้อมทรมาน ประธานมูลนิธิผสานวัฒนธรรมส่งหนังสือขออัยการไม่อุทธรณ์


31 ส.ค. 2565, 14:05



ศาลยกฟ้อง ! "คดียาเสพติดนายสุรัช" เหยื่อซ้อมทรมาน ประธานมูลนิธิผสานวัฒนธรรมส่งหนังสือขออัยการไม่อุทธรณ์




ศาลกาญจนบุรี ยกฟ้องคดียาเสพติดของนายสุรัช เผือกพันธ์ด่อน “เหยื่อซ้อมทรมาน” หลังตกเป็นจำเลยในข้อหามียาเสพติดไว้ในครอบครอง ชี้ประจักษ์พยานโจทก์คือชุดเจ้าหน้าที่ที่เข้าจับกุมนายสุรัชและพวกเบิกความขัดแย้งกันหลายปาก ประธานมูลนิธิผสานวัฒนธรรมผู้รับผิดชอบคดีนายสุรัช ส่งหนังสือถึงอัยการขอให้ไม่อุทธรณ์คดี ร้องคดีนี้เป็นคดีกลั่นแกล้งสมควรยุติ

วันนี้ 31 ส.ค. 2565 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า นายสุรพงษ์ กองจันทึก ประธานมูลนิธิผสานวัฒนธรรม เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2565 ศาลกาญจนบุรี มีคำพิพากษายกฟ้องในคดีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจากศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศอ.ปส.ตร.) รวมสามนายเข้าจับกุมนายสุรัชจากบ้านพัก ต่อมาพบว่านายสุรัชถูกซ้อมทรมานอาการสาหัส แต่พนักงานอัยการยื่นฟ้องนายสุรัชต่อศาลในข้อหาความผิดต่อพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ ครอบครองยาเสพติดเพื่อจำหน่าย ความผิดต่อเจ้าพนักงาน และความผิดต่อชีวิต เป็นคดีหมายเลขดำที่ ย132/2563

ศาลพิจารณาเห็นว่าพยานหลักฐานโจทก์ในคดีนี้มีเพียงคำเบิกความของพยานประจักษ์โจทก์ที่มาเบิกความยืนยันในลักษณะขัดแย้งกันเป็นพิรุธให้สงสัย ปราศจากพยานหลักฐานอื่นใดเกี่ยวกับการสืบสวนว่าจำเลยมีส่วนเกี่ยวข้องกับการจำหน่ายยาเสพติดหรือไม่ อีกทั้งเจ้าหน้าที่ชุดที่เข้าจับกุมก็ไม่ปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย โดยพนักงานสอบสวนได้มีความเห็นสั่งฟ้องการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบของเจ้าหน้าที่ทั้งสามแล้วและคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานอัยการ ดังนั้น พยานหลักฐานโจทก์นำสืบจึงยังเป็นที่สงสัยว่านายสุรัชกระทำความผิดตามฟ้องหรือไม่ จึงยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้แก่จำเลย จึงพิพากษายกฟ้อง

นายสุรพงษ์ กล่าวว่า วันนี้ (30 สิงหาคม) ที่ผ่านมา ตนได้ส่งหนังสือถึงพนักงานอัยการจังหวัดกาญจนบุรี และอัยการสูงสุด ขอให้พนักงานอัยการไม่อุทธรณ์ โดยหนังสือ มีใจความสำคัญว่า คดีนี้ศาลชั้นต้นได้ยกฟ้องแล้วด้วยเห็นว่าข้อเท็จจริงตามคำเบิกความพยานโจทก์ไม่อาจรับฟังได้ อีกทั้งข้อเท็จจริงในทางพิจารณาคดียังสอดคล้องกับที่ นายสุรัช ให้ข้อมูลกับทนายความของมูลนิธิฯ

โดยนายสุรัชเชื่อว่าสาเหตุของการเข้าจับกุมตนยามวิกาลน่าจะมาจากที่ตนมีสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับหญิงคนหนึ่งที่ใกล้ชิดสนิทกับตำรวจชุดจับกุม จึงเชื่อได้ว่ามูลเหตุแท้จริงของเหตุการณ์คดีนี้ไม่ใช่ยาเสพติด แต่เป็นการกลั่นแกล้งให้นายสุรัชได้รับความเดือดร้อน อีกทั้งตำรวจชุดจับกุมปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ซึ่งพนักงานสอบสวนสั่งฟ้องแล้ว เรื่องอยู่ระหว่างการดำเนินการของอัยการ

การอุทธรณ์คดีนี้จึงไม่เป็นประโยชน์อันใดและยังเป็นการซ้ำเติมสร้างความยากลำบากแก่นายสุรัชและครอบครัว ปัจจุบันนายสุรัชต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดโดยสมาชิกในครอบครัวเสมือนการดูแลเด็กวัย 8 ปี อันเป็นผลจากการที่นายสุรัชถูกทำร้ายจนอาการสาหัส สมองได้รับการกระทบกระเทือนจนทำให้เชาน์ปัญญาอยู่ในระดับปัญญาอ่อน (IQ=59) อายุสมองเท่ากับเด็กอายุ 8 ปี 8 เดือน ทำให้ชีวิตนายสุรัช เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง

นายสุรพงษ์กล่าวเพิ่มเติมว่านอกจากนี้คดีซ้อมทรมานนายสุรัชที่พนักงานสอบสวนสั่งฟ้องเจ้าหน้าที่ชุดที่เข้าจับกุมในวันเกิดเหตุ นั้น ยังคงค้างอยู่ที่พนักงานอัยการคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 7 มากว่าสองปีแล้ว จึงขอให้อัยการสูงสุดเร่งรัดให้พนักงานอัยการยื่นฟ้องคดีนี้โดยเร็วด้วย 









Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.