เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



"รร.อนุบาลสังขละบุรี" ประสบความสำเร็จในการจัดโครงการอาหารกลางวันโดยยึดแบบ Thai school lunch ภายใต้งบประมาณอุดหนุนรายละ 21 บาท


21 ก.ค. 2565, 14:32



"รร.อนุบาลสังขละบุรี" ประสบความสำเร็จในการจัดโครงการอาหารกลางวันโดยยึดแบบ Thai school lunch ภายใต้งบประมาณอุดหนุนรายละ 21 บาท




โรงเรียนอนุบาลสังขละบุรี อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ดำเนินโครงการอาหารกลางวันโดยยึดแบบของสพฐคือทำตาม thai school lunch ซึ่ง เป็นระบบที่ช่วยให้โรงเรียนสร้างเมนูอาหารกลางวันขึ้นได้เอง หรือให้ระบบจัดสำรับอาหารให้อัตโนมัติ จากข้อมูลเมนูอาหารในระบบที่มีมากกว่า 1,000 ชนิด โดยระบบสามารถคำนวนคุณค่าสารอาหารจากสำรับที่จัดขึ้น และคำนวนปริมาณของวัตถุดิบในการจัดซื้อแต่ละครั้งได้ ทำให้สามารถประมาณค่าใช้จ่ายได้ล่วงหน้า และสรุปค่าใช้จ่ายจริงตามราคาวัตถุดิบในแต่ละท้องถิ่น

นอกจากนี้ตัวระบบของ Thai School Lunch ยังมีการเชื่อมโยงกับระบบ KidDiary ทำให้ครอบครัวของนักเรียนสามารถเข้าถึงข้อมูลทางโภชนาการและพัฒนาการของเด็ก ๆ ได้ รวมถึงมีการเชื่อมโยงกับเกษตรกรในแต่ละพื้นที่ เพื่อบริหารจัดการผลผลิตให้กับโรงเรียน เป็นการส่งเสริมอาชีพให้กับชุมชนได้อีกทางหนึ่ง

ผลจากการดำเนินงานที่ผ่านมาสร้างความพึงพอใจให้นักเรียน และผู้ปกครองจนได้รับคำชื่นชม ตลอดมา ภายใต้งบประมาณเงินอุดหนุนรายละ 21 บาท จากเทศบาลตำบลวังกะ ขณะที่สินค้าปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โรงเรียนบริหารจัดการอย่างไร เพื่อให้นักเรียน 1,630 คน ได้รับอาหารกลางวันดี มีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วน เป็นคำถามที่หลายๆคนอยากรู้

โดยวันนี้ 21 ก.ค. 2565 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่าได้เดินทางไปพบ นายพีระฉัตร เคียงน้อย ผอ.รร.อนุบาลสังขละบุรี เพื่อหาคำตอบ เบื้องต้น ผอ.เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า รร.อนุบาลสังขละบุรี จัดการเรียนการสอนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล-ป-6  มีนักเรียนทั้งหมด 1,630 คน โดยมีนักเรียนส่วนหนึ่ง 104 คนเป็นมุสลิม

สำหรับโครงการอาหารกลางวันของโรงเรียน ได้นำระบบThai school lunch ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ) มาปรับใช้ เพื่อช่วยในเรื่องการจัดทำเมนูอาหารกลางวัน ที่ถูกหลักอนามัย และถูกหลักโภชนาการ ที่เด็กๆต้องการในการพัฒนาทั้งกายภาพและสติปัญญา

ซึ่งแต่ละวัน โรงเรียนจะจัดประกอบอาหารกลางวันโดยมีข้าว กับข้าว วันละ2อย่าง ผลไม้หรือขนมหวาน สลับกันให้นักเรียนได้รับประทาน โดยคัดเลือกวัตถุดิบที่มีคุณภาพและปลอดภัย มาประกอบอาหารให้ถูกต้องตามหลักโภชนาการ ในสถานที่ที่สะอาดได้มาตรฐาน

โดยนำงบเงินอุดหนุนที่ได้รับจากท้องถิ่น รายละ 21 บาท มาจัดสรรเป็นค่าจ้างแม่ครัว 1 บาท ค่าก๊าซหุงต้มและค่าเครื่องปรุง 2 บาท เหลือ18 บาท สำหรับค่าวัตถุดิบ โดยจะพยายามเน้นวัตถุดิบในพื้นที่ เช่นผัก ผลไม้ ที่ชาวบ้านหรือผู้ปกครองปลูกในพื้นที่เพื่ออุดหนุนผู้ปกครองและทำให้วัตถุดิบได้ในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาด

ปัจจุบันมีการจ้างแม่ครัว 10 คนมาทำอาหารให้เด็กนักเรียนโดยเปิดรับผู้ปกครองเด็กที่ไม่มีงานทำ เพื่อช่วยให้มีรายได้

 ส่วนเด็กนักเรียนที่เป็นมุสลิม 104 คน ก็จะมีการจัดการเรื่องอาหารให้ตามหลักศาสนาและความเชื่อของชาวมุสลิมโดยมีผู้ปกครองของเด็กๆมาเป็นแม่ครัวเพื่อประกอบอาหารให้นักเรียน โดยได้ทำการแยกภาชนะ และพื้นที่ให้เป็นสัดส่วนต่างหาก ทั้งหมดที่โรงเรียนดำเนินการต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้ เนื่องจากตลอดระยะเวลาโรงเรียนยึดผลประโยชน์ของนักเรียนเป็นที่ตั้ง จึงได้รับคำชื่นชมจากผู้ปกครองและความพึงพอใจจากนักเรียนทุกคน

ขณะที่ปัจจุบันสถานการณ์โควิต-19 กลับเริ่มกลับมาระบาดอีกครั้ง ตามการประกาศให้เฝ้าระวังของกระทรวงสาธารณสุขและผู้บริหารของ สพฐ.แม้ว่าขณะนี้ในพื้นที่อำเภอสังขละบุรียังไม่พบการระบาด แต่การป้องกันในโรงเรียนได้เตรียมรับมือด้วยการแบ่งช่วงเวลาในการรับประทานอาหารของนักเรียน เพื่อลดความแออัด

โดยในเวลา 11.00 น.จะเป็นระดับชั้น ป1-ป4 ส่วนเวลา 13.30-12.00 น ระดับชั้น ป5-ป6  ขณะที่ระดับอนุบาลจะจัดให้รับประทานในอาคารเรียนของอนุบาล และจะมีการแยกภาชนะ จาน ช้อน แก้วน้ำ เป็นของแต่ละบุคคล รวมทั้งให้นักเรียนดูแล ทำความสะอาดด้วยตัวเองภายใต้การดูแลของคุณครู

ขณะที่ ด.ญ อภิสรา สดชื่นไสว นร.ชั้น ป 6 / 4 เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่าในแต่ละวันโรงเรียนทำอาหารให้ไม่ซ้ำกัน มีทั้งแกงและผลไม้หรือขนมหวาน ให้ได้กินซึ่งเป็นอาหารที่ดีมีโภชนาการครบ 5 หมู่ ส่วนตัวตนเองชอบแกงจับฉ่ายและไก่ทอด  การได้รับอาหารที่ดี มีคุณค่าตามหลักโภชนาการช่วยส่งผลต่อการเจริญเติบโตและการพัฒนาการทางสมองของตนเองและเพื่อนๆทุกคน

 









Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.