ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่นครนายก แม่และทนายความได้นำตัว นายปราโมทย์ จิตสงัด อายุ 31 ปี บ้านเลขที่197/1 หมู่ 3 ตำบลสาลิกา อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครนายก เข้ามอบตัวที่ สภ.เมืองนครนายก โดยหลังจากก่อเหตุนำตัวเด็กสาววัย 17 ปี ไปข่มขืนมาราธอนนาน 4 วัน ที่อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา โดยเหตุเกิดตั้งแต่คืนวันที่ 7 ก.ย. 62 หลังจากนั้นทางแม่ของเด็กสาวได้เดินทางเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองนครนายก และเร่งกดดันติดตามตัว นายปราโมทย์ จนได้นำตัวของเด็กสาวคนดังกล่าวมาทิ้งไว้ที่บริเวณใต้สะพานตลาดหินกอง อำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี หลังจากนั้นจึงได้โทรศัพท์บอกแม่ เจ้าหน้าที่จึงรีบไปรับตัวกลับมา

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเด็กสาวคนดังกล่าว เล่าว่า คืนวันเกิดเหตุแฟนหนุ่มของตนที่ชื่อมอสและเพื่อนรวม 4 คน ได้สั่งให้ตนขับรถ จยย. ไปคนเดียวตามคำสั่งของ นายปราโมทย์ เพื่อไปรับของอะไรบางอย่างที่ตัวเองไม่ทราบโดยจะมีเจ๊คนหนึ่งขับรถ จยย. สวนมาแล้วจะส่งของให้ แต่กลับเป็นตัว นายปราโมทย์ ที่ขับรถกระบะสวนมา และหลอกให้เด็กสาวขับรถตามไปที่บ้านซึ่ง นายปราโมทย์ เรียกว่าเจ๊และให้ตนจอดรถไว้แล้วสั่งให้ขึ้นกระบะแล้วขับออกไป จนถูกพาไปข่มขืนระหว่างนั้น นายปราโมทย์ ก็ได้เล่าให้ตนฟังว่า นายนัท ซึ่งเป็นพี่ชายของ นายมอส แฟนหนุ่มของตนได้ติดค้างค่ายาบ้าเอาไว้ ตนจึงคาดว่าแฟนหนุ่มของตนและเพื่อนวางแผนที่จะลวงตนให้กับ นายปราโมทย์ ไปเพื่อแลกกับค่าที่ติดค้างเอา เจ้าหน้าที่จึงออกติดตามตัว นายมอส และพี่ชายก่อนนำตัวมาสอบสวนทั้ง 2 คนให้การปฏิเสธโดยบอกว่าไม่รู้จักกับ นายปราโมทย์ แต่เจ้าหน้าที่ตรวจพบสารเสพติดในร่างกายจึงนำตัวมาดำเนินคดีที่ สภ.เมืองนครนายก ต่อมาพอข่าวของนายปราโมทย์ เริ่มดังและมีการออกกดดันทุกทางแม่ของ นายปราโมทย์ ซึ่งเดินทางมาจากต่างประเทศจึงได้ประสานกับผู้นำท้องถิ่นเพื่อจะขอพา นายปราโมทย์เข้ามอบตัว โดยในวันนี้เมื่อเวลา 14.30 น. แม่และทนายความได้พาตัว นายปราโมทย์ จิรสงัด ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดนครนายก เข้ามอบตัวที่ สภ.เมืองนครนายก แล้วพร้อมรับฟังข้อกล่าวหากับพนักงานสอบสวนโดยเบื้องต้นได้ตั้งข้อหากระทำผิดฐานพรากผู้เยาว์อายุกว่า 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี ไปเสียจากบิดา มารดา ผู้ปกครองหรือผู้ดูแล โดยผู้เยาว์ไม่เต็มใจไป – พาผู้เยาว์อายุกว่า 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี ไปเพื่อกระทำอนาจารแม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตามและข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นอื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยผู้อื่นนั้นอยู่ในสภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้

โดยหลังจากฟังกล่าวหาเสร็จ เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัว นายปราโมทย์ ไปฝากขังที่ห้องขัง สภ.เมืองนครนายก ชั่วคราว โดยระหว่างนำตัวไปเข้าห้องขังผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่ารู้จักกับ นายมอส หรือไม่ ซึ่ง นายปราโมทย์ บอกไม่รู้จักและให้การปฏิเสธและพร้อมจะให้การชั้นศาลอย่างเดียว ขณะที่ทางด้าน นายตรัยเทพ กมลยะบุตร ทนายความส่วนตัวได้บอกกับทางผู้สื่อข่าวว่า ตอนนี้ตนเองเพิ่งได้รับการตอบต่อเพื่อเข้ามาดูแลคดีนี้จึงยังไม่ทราบข้อมูลอะไรมากมาย จึงยังไม่ขอเปิดเผยอะไรมากไปกว่านี้ โดยในวันพรุ่งนี้จะได้ทำเรื่องขอประกันตัว โดยทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่คัดค้านการประกันตัวเนื่องจากผู้ต้องหาเข้ามอบตัวเองและมีสิทธิ์ประกันตัวเพื่อต่อสู้คดีในชั้นศาลต่อไป