เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



"ชาวบ้าน" หาน้ำผึ้งป่าจากธรรมชาติ คั้นน้ำสดๆขายข้างทาง สร้างรายได้ดูแลครอบครัวไม่ต้องไปใช้แรงงานต่างถิ่น


15 มี.ค. 2565, 08:34



"ชาวบ้าน" หาน้ำผึ้งป่าจากธรรมชาติ คั้นน้ำสดๆขายข้างทาง สร้างรายได้ดูแลครอบครัวไม่ต้องไปใช้แรงงานต่างถิ่น




วันนี้ ( 14 มีนาคม 2565) ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสุรินทร์ รายงานว่า ที่ บริเวณริมไหล่ทางหลวงหมายเลข 2076 สาย อ.ท่าตูม – อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ ช่วงหลัก กม.ที่ 14 ก่อนถึงบ้านสำโรง-หนองกา ต.รัตนบุรี อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ ประมาณ 500 เมตร บริเวณสองข้างทาง จะมีแผงขายของป่าตั้งอยู่เรียงรายกันเป็นจำนวนมาก และในช่วงนี้ก็จะมีชาวบ้านใกล้เคียงริมทางหลวงสายนี้ นำรังผึ้งและรังมิ้ม มาป่าวางขายกันเป็นจำนวนมากในแต่ละแผงขาย ซึ่งเป็นสินค้าและอาชีพหนึ่งที่มีแต่เฉพาะช่วงหน้าแล้งเท่านั้น นั่นก็คืออาชีพหารังผึ้งหรือมิ้มป่ามาขาย ซึ่งมีอยู่เป็นประจำทุกปี ในช่วงปลายเดือน กุมภาพันธุ์ ถึงเดือน เมษายน เนื่องจากมีรังผึ้ง หรือผึ้งเล็กที่ชาวบ้านเรียกว่ารังมิ้ม ป่าเกิดขึ้นตามธรรมชาติอยู่เป็นจำนวนมาก และมีรสชาติหอมหวาน ตามกลิ่นดอกไม้ ที่ผึ้งหรือมิ้ม นำมาทำรังน้ำหวาน ตามคำที่ว่า น้ำผึ้งหรือมิ้มป่าจะให้รสหอมหวานอร่อย ต้องเป็นน้ำผึ้งป่าเดือนห้าเท่านั้น ซึ่งก็ตรงกับช่วงเดือนมีนาคมถึงเดือนเมษายนพอดี



โดย นางสาวนัดธิตา พงษ์พานิช อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 235 หมู่ที่ 4 ต.รัตนบุรี อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในบรรดาแม่ค้าที่มาเปิดแผงขายรังผึ้งหรือมิ้มป่าที่บริเวณริมถนนสายนี้ ก็ได้เปิดเผยว่า ตนทำอาชีพนี้มาหลายปีแล้ว ซึ่งคนในหมู่บ้านต่างก็ออกหารังผึ้งหรือมิ้มป่ามาขายเช่นกันหลังจากว่างเว้นจากการทำนา โดยเฉพาะในช่วงฤดูแล้งที่คนในหมู่บ้านไม่มีงานทำ จึงพากันมาทำอาชีพเสริม เพราะหมู่บ้านเราติดกับหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ สร.5 (หินล้ม-พนมดิน) เหมาะกับอาชีพหาของป่าขาย ถ้าเป็นหน้าแล้งก็จะเป็นรังผึ้งป่ากับไข่มดแดง ส่วนหน้าฝนก็จะเป็นเห็ดป่าและผลไม้ป่า ซึ่งเป็นของที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติที่มีมากมายตามฤดูกาล แล้วแต่สภาพอากาศ การหารังผึ้งหรือรังมิ้มป่าที่ชาวบ้านเรียกกันต้องออกหากันแต่เช้า เพราะกว่าจะออกไปหาได้ก็เกือบทั้งวัน ถ้าหาได้เร็วก็จะนำออกมาวางขายได้ทันช่วงบ่ายๆ ซึ่งทันกับช่วงที่คนเลิกงานเดินทางกลับบ้านพอดี แต่ถ้าหาได้ตอนเย็นก็จะนำออกมาวางขายตอนเช้า แต่ช่วงบ่ายจะขายดีกว่า

สำหรับวิธีการหารังผึ้งหรือมิ้มป่า เราก็จะนำเอากาบมะพร้าวแห้งมาเผาเอาควันไล่ผึ้ง บางคนก็จะใช้มีดตัดเอากิ่งไม้ที่มีรังผึ้งเกาะอยู่เอามาเลย แต่คนในหมู่บ้านจะไม่มีใครใช้สเปรย์สารเคมีฉีดเพื่อไล่ผึ้งหรือมิ้ม ซึ่งจะมีอันตรายต่อคนกิน และกลัวจะเสียลูกค้าหากเขารู้ภายหลัง ต่อไปเขาก็จะไม่มาซื้อของเรา ชาวบ้านที่นี่เราคุยกันแล้วว่าจะไม่ทำอย่างนั้นเด็ดขาด เพื่อของป่าของเราจะได้เป็นของจากธรรมชาติจริงๆ ไม่มีสารเคมีเจือปน ส่วนคนที่เริ่มออกหารังผึ้งป่าแรกๆ ก็มักจะโดนผึ้งต่อยหนักบ้างเบาบ้างก็แล้วแต่สถานการณ์ กว่าจะได้รังผึ้งป่ามาหนึ่งรัง ก็เจ็บตัวไปตามๆ กัน ส่วนคนที่ออกหามานานแล้วก็มักจะโดนจนชิน จนไม่มีความรู้สึกอะไรมากนอกจากแสบๆ คันๆ เท่านั้น แต่ถึงเจ็บก็ยังออกไปหารังผึ้งกัน เพราะมีรายได้ดี บางคนหาได้เป็นพันบาทต่อวัน ส่วนตนนั้นก็หาเองด้วยแต่ก็ยังไม่พอขาย จึงได้รับซื้อกับญาติๆกันที่ออกไปหาผึ้งมา ซึ่งก็เอามาวางขายได้วันละ 3-4 พันบาทต่อวัน


แต่ปีนี้ยอดจะตกกว่าปีที่แล้วหน่อย ซึ่งปีที่ผ่านมานั้นขายได้ถึงวันละ 6-7 พันบาทต่อวันเลยทีเดียว และในปีนี้ผึ้งก็จะแพงกว่าทุกปีด้วย เพราะหายาก รังผึ้งไม่ค่อยมีเหมือนเมื่อก่อน เนื่องจากปีนี้มีสภาพอากาศแปรปรวนกว่าทุกปี น้ำในรังผึ้งจึงมีไม่มาก ทำให้น้ำผึ้งป่ามีราคาพุ่งขึ้นจากเดิมขายขวดละ 550 บาท แต่มาปีนี้ต้องมาขายที่ขวดละ 600 บาท แต่ถ้าจะให้ส่งให้ ก็ต้องบวกค่าส่งอีก 100 บาท ” นางสาวนัดธิตา กล่าว

นางสาวนัดธิตา ยังกล่าวอีกว่า สำหรับราคารังผึ้งในปีนี้ก็เริ่มต้นที่รังละ 100 บาท ไปจนถึงราคารังละ 300 บาท มีทั้งในส่วนที่เป็นน้ำผึ้งและตัวอ่อน ซึ่งลูกค้าบางรายก็อยากได้น้ำผึ้งป่าสดๆ เราก็บริการคั้นให้ฟรีอีกด้วย โดยให้ลูกค้าเลือกเอาเองว่าจะเอารังไหน เลือกเอามาเองเลย ตนก็จะเอามาคั้นให้เห็นสดๆกันเลย ลูกค้าจะได้มั่นใจว่าเป็นน้ำผึ้ง น้ำหวานมิ้มสดจริงๆ ไม่มีสิ่งเจือปน จากนั้นส่วนที่เป็นเกสรผึ้งซึ่งสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อีกมากมาย โดยเฉพาะในเรื่องสุขภาพ ลูกค้าบางรายก็จะขอเอากลับไปดองไว้กิน






Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.