เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



"บิ๊กป้อม" ทุ่มงบกลาง 44 ล้านบาท สร้างพนังกั้นน้ำในจุดเสี่ยงอุทกภัย 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้


3 มี.ค. 2565, 08:56



"บิ๊กป้อม" ทุ่มงบกลาง 44 ล้านบาท สร้างพนังกั้นน้ำในจุดเสี่ยงอุทกภัย 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้




วันที่ 3 มี.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 2 มี.ค.65  ที่ห้องประชุมพระนราภิบาล ศาลากลาง จ.นราธิวาส พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ จ.นราธิวาส พร้อมรับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ ซึ่งโดยรวม 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยะลา ปัตตานีและนราธิวาส สภาวะน้ำท่วมขังเริ่มลดลงเหลือเพียง 19 อำเภอ ที่คาดว่าไม่เกิน 1 สัปดาห์สภาวะน้ำท่วมขังจะกลับคืนสู่สภาวะปกติ และในช่วงวันที่ 5 มี.ค. 65 ที่จะถึงนี้จะมีสภาวะฝนตกลงมาอีกละลอก แต่ไม่หนักเหมือนครั้งนี้ ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการเตรียมพร้อมในการรับมือแล้ว เพื่อไม่ให้เกิดประวัติซ้ำรอย โดยเฉพาะพื้นที่ตลาดมูโนะ ม.1 ต.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลก ที่มีน้ำท่วมขังหนักในรอบ 60 ปี

โดยพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวมอบนโยบายแก่หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ในการช่วยเหลือประชาชนและเร่งลดผลกระทบจากปัญหาอุทกภัย โดยได้สั่งการให้กรมชลประทาน วางแผนการบริหารจัดการน้ำร่วมกับกระทรวงมหาดไทย เพื่อเร่งระบายน้ำให้คลี่คลายโดยเร็ว พร้อมทั้งให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด และศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ร่วมกันบูรณาการสำรวจและช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัย รวมถึงมอบหมายให้กรมชลประทานกรมโยธาธิการและผังเมือง เร่งรัดและวางแผนการก่อสร้างพนังกั้นน้ำในจุดเสี่ยงอุทกภัยทั้ง 3 จังหวัด ให้สามารถป้องกันอุทกภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ



ซึ่งพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้มีการอนุมัติงบกลาง จำนวน 44 ล้านบาท ให้กรมชลประทานและกรมโยธาธิการและผังเมือง ทำการก่อสร้างผนังกั้นน้ำในระยะทาง 10 เมตร ที่ยังหลงเหลือให้สามารถแล้วเสร็จก่อนที่จะถึงฤดูน้ำหลากที่จะมาถึงนี้ รวมทั้งการซ่อมแซมพนังกั้นน้ำที่ชำรุดเสียหายที่ด้านหลบังตลาดมูโนะให้แล้วเสร็จ เพื่อไม้ให้เกิดประวัติซ้ำรอยเป็นพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซากของแต่ละปี และยังได้มอบหมาให้ สทนช. และ ศอ.บต. ประสานและบูรณาการ แก้ไขปัญหาอุทกภัยและภัยแล้ง ให้เป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์บริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี ที่วางไว้โดยให้ จังหวัดนราธิวาส ยะลา และปัตตานี ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสร้างการรับรู้ เพื่อให้ทุกภาคส่วนมีความเข้าใจและยอมรับในการดำเนินการก่อสร้างโครงการต่าง ๆ ที่จะช่วยแก้ไขปัญหาในพื้นที่ได้อย่างเป็นรูปธรรม

จากนั้นในช่วงบ่าย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ พร้อมคณะได้เดินทางต่อไปยังตลาดมูโนะ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ยังมีน้ำท่วมขังสูง โดยเฉลี่ย 50 ถึง 70 ซ.ม.เพื่อพบปะให้กำลังใจประชาชน พร้อมแจกถุงยังชีพให้กับผู้ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในพื้นที่ ต.มูโนะ 5 หมู่บ้าน จำนวน 300 ชุด พร้อมเน้นย้ำว่ารัฐบาลจะเร่งช่วยเหลือประชาชนอย่างสุดกำลัง และกำชับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการแก้ไขปรับปรุงพนังกั้นน้ำมูโนะ ในส่วนที่ชำรุดและเสริมความมั่นคง แข็งแรงของพนังกั้นน้ำมูโนะ เพื่อป้องกันอุทกภัยที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต โดยกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมชลประทาน จะเร่งรัดดำเนินการสำรวจ ออกแบบและก่อสร้างระบบพนังกั้นน้ำส่วนที่เหลือยังไม่ได้ดำเนินการให้เป็นไปตามแผนงาน  พร้อมติดตามเร่งรัดกับหน่วยงานให้การก่อสร้างพนังกั้นน้ำที่ชำรุด เสียหายแล้วเสร็จเพื่อสามารถป้องกันอุทกภัยหากเกิดขึ้นในปีหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ


พร้อมกันนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปยังจุดพนังกั้นน้ำที่ชำรุดจากสภาวะน้ำท่วมที่ถูกกะแสน้ำที่ไหลเชี่ยวพักเสียหาย ยาว 10 เมตร เมื่อช่วงปลายเดือนธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา โดยมีนายเฉลิมชัย ตรีนรินทรฺ ผอ.สนง.ชลประทานที่ 17 ได้กล่าวรายงานถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังนำ BIG BAG มาวางเพื่อเป็นแนวกั้นดินเพื่อไม่ให้กระแสน้ำในแม่น้ำสุไหงโก-ลก กัดเซาะคันดินเก่าที่ได้ดำเนินไปแล้วเมื่อเดือนธันวาคม ให้มีความแข็งแรงแก้ปัญหาน้ำกัดเซาะ แล้วได้ไหลทะลักเข้าสู่ตลาดมูโนะ ซึ่งจุดดังกล่าวนี้เป็นส่วนหนึ่งของงบประมาณกลาง 44 ล้านบาท ที่รองนายกรัฐมนตรีจะอนุมัติให้เป็นกรณีพิเศษและก่อนที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี จะเดินทางกลับ ได้เดินทางไปยังสวนรื่นอรุณ เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจและปลอบขวัญประชาชน ที่อาศัยอยู่เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก และ ต.ปาเสมัส อ.สุไหงโก-ลก ด้วยการมอบถุงยังชีพ จำนวน 500 ชุด ในครั้งนี้ด้วย






Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.