เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



ผู้ว่าฯ กาญจนบุรี นำทีมงานรับฟังปัญหา ความต้องการประชาชน-มอบสิ่งของให้ชาวบ้านพื้นที่ อ.พนมทวน


24 ก.พ. 2565, 19:09



ผู้ว่าฯ กาญจนบุรี นำทีมงานรับฟังปัญหา ความต้องการประชาชน-มอบสิ่งของให้ชาวบ้านพื้นที่ อ.พนมทวน




ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี นำผู้บริหารและหัวหน้าส่วนราชการ ออกรับฟังปัญหาความเดือดร้อนและความต้องการของประชาชนพร้อมให้ส่วนราชการแบ่งคณะลงพื้นที่เยี่ยมเยียนมอบสิ่งของให้กับครอบครัวที่ต้องได้รับการช่วยเหลือของพื้นที่อำเภอพนมทวน ในกิจกรรม แก้จน Mobile ตามนโยบายของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในการออกหน่วยจังหวัดเคลื่อนที่ บำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้กับประชาชน ครั้งที่ 3 ปี 2565

 

วันนี้ 24 กุมภาพันธ์ 2565 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า  ที่ว่าการอำเภอพนมทวน จังหวัดกาญจนบุรี นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี  เป็นประธานในโครงการจังหวัดเคลื่อนที่ บำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้กับประชาชน ครั้งที่ 3 ประจำปี 2565 พร้อมด้วย นายชำนาญ ชื่นตา รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี  นายปกรณ์ กรรณวัลลี ปลัดจังหวัดกาญจนบุรี นางสาวเขมิกา ประเสริฐสม ผู้แทนนายกเหล่ากาชาดจังหวัดกาญจนบุรี หัวหน้าส่วนราชการ สมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัดกาญจนบุรี เข้าร่วม โดยมี นายวันชัย ศรีวงษ์ญาติดี นายอำเภอพนมทวน  หัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำชุมชนในท้องที่ ให้การต้อนรับพร้อมรายงานสภาพปัญหาความเดือดร้อนและความต้องการในพื้นที่อำเภอพนมทวน

 

จังหวัดกาญจนบุรี โดยที่ทำการปกครองจังหวัดกาญจนบุรี ได้ออกหน่วยจังหวัดเคลื่อนที่ บำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้กับประชาชน ครั้งที่ 3 ประจำปี 2565 เพื่อรับทราบปัญหาและอุปสรรคในพื้นที่ และให้ส่วนราชการได้ชี้แจงประเด็นปัญหาความต้องการของประชาชนและแนวทางการแก้ไขปัญหา รวมถึงการประชาสัมพันธ์กิจกรรมของหน่วยงานต่างๆ ที่จัดขึ้นเพื่อให้ผู้นำชุมชนไปประชาสัมพันธ์กับประชาชนให้เกิดการรับรู้ พร้อมนำสิ่งของอุปโภค-บริโภค ไปมอบให้กับประชาชนผู้ยากไร้ ผู้ด้อยโอกาส ในพื้นที่อำเภอพนมทวน

 

สำหรับในพื้นที่อำเภอพนมทวน มีสภาพปัญหาที่ต้องการขอรับการช่วยเหลือ ได้แก่ ด้านน้ำอุปโภคบริโภค ในพื้นที่ตำบลดอนตาเพชร มีปัญหาขาดแคลนน้ำ เนื่องจากอยู่นอกเขตชลประทาน และต้องการระบบน้ำประปาเข้าไปในหมู่บ้าน มีการของงบประมาณแต่ยังไม่ได้รับการจัดสรร ส่วนในพื้นที่ตำบลหนองโรง มีระบบประปาแล้วแต่ต้นทุนน้ำมีไม่เพียงพอ ต้องนำน้ำไปแจกจ่ายให้กับประชาชนโดยเฉพาะในช่วงฤดูแล้ง   ด้านการจราจร ในถนนในเส้นบ้านหนองกระทุ่ม ตำบลหนองกุ่ม เนื่องจากเป็นพื้นที่คอสะพาน ไม่มีสัญญาณไฟจราจร ทำให้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง จึงต้องการให้มีการปรับปรุงเพื่อลดอุบัติเหตุ และด้านเอกสารสิทธิ์ที่ดิน เนื่องจากมีการออกสำรวจแล้ว มีที่ดินบางส่วนได้รับเอกสารสิทธิ์ แต่ส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับจึงขอให้ดำเนินการในส่วนที่ดินที่ยังไม่ได้ดำเนินการ เพื่อที่ประชาชนจะได้ประโยชน์

 

ซึ่งปัญหาดังกล่าวทางส่วนราชการได้ออกมาชี้แจงแนวทางการแก้ไข ดังนี้ ด้านน้ำอุปโภคบริโภค ได้มีการแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่อง โดยขณะนี้มีการขุดพบแหล่งน้ำใต้ดิน โดยกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ได้ทำการสูบน้ำกระจายไปยังพื้นที่ต่างๆ ที่ขาดแคลนน้ำและอยู่ระหว่างดำเนินการกระจายน้ำส่งไปยังอำเภอใกล้เคียงที่ต้องการใช้น้ำด้วยเช่นกัน หากดำเนินการแล้วเสร็จจะสามารถแก้ปัญหาดังกล่าวได้ ด้านปัญหาการจราจร ได้มีการดำเนินการติดตั้งหลักนำทางแบบล้มลุก ติดตั้งป้ายแจ้งเตือนผู้ใช้รถใช้ถนน ทำเครื่องหมายบนผิวจราจร ตีเส้นจราจรให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคม 2565 นี้ ส่วนการติดตั้งไฟจราจรจะต้องมีการสำรวจความต้องการ หากตรงตามเกรฑ์ก็สามารถติดตั้งได้  ส่วนเรื่องปัญหาที่ดิน ทางสำนักงานที่ดินจังหวัดกาญจนบุรีจะส่งหนังสือไปยังส่วนกลางในการส่งทีมมาสำรวจพิสูจน์สิทธิ์ที่ดินและดำเนินการพิจารณาออกเอกสารสิทธิ์ต่อไป

 

จากนั้น ได้แบ่งส่วนราชการออกเป็น 11 คณะ ลงพื้นที่มอบสิ่งของเยี่ยมเยียนและให้การช่วยเหลือกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ ผู้ยากไร้ ผู้ด้อยโอกาส ผู้ป่วยติดเตียง ผู้พิการ และกลุ่มเป้าหมายที่ตกเกณฑ์ รวมจำนวน 46 ครัวเรือน ซึ่งเป็นไปตามนโยบายการขับเคลื่อนการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของรัฐบาล โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี 

 

โดย ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรีได้มอบหมายให้ นายปกรณ์ กรรณวัลลี ปลัดจังหวัดกาญจนบุรี นางสาวเขมิกา ประเสริฐสม ผู้แทนนายกเหล่ากาชาดจังหวัดกาญจนบุรี ลงพื้นที่นำถุงยังชีพและเงินช่วยเหลือจากสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดกาญจนบุรี ไปมอบให้กับกลุ่มเป้าหมายที่ตกเกณฑ์ตามข้อมูล TPMAP พร้อมด้วย นายวันชัย ศรีวงษ์ญาติดี นายอำเภอพนมทวน  หัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ ซึ่งได้ลงพื้นที่จำนวน 3 ครัวเรือนได้แก่ นางยิ้น ทรัพย์มิตร อายุ 70 ปี  นางบัวลอย เกิดศิริ อายุ 78 ปี และนางจู แก้วตามสาม อายุ 85 ปี โดยส่วนใหญ่จะมีปัญหาในเรื่องสุขภาพ จะช่วยเหลือด้วยการพาไปพบแพทย์ สนับสนุนอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวัน นอกจากนี้ยังได้สอบถามปัญหาความต้องการให้ผู้นำชมชนเข้าไปติดตามช่วยเหลือต่อไป

 



 


 






Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.