วันนี้ 11 ก.พ. 2565 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า นางอัจฉราพร  พนารักษ์ และ นายจอแห่ง พนารักษ์ น้องชาย ผู้ตกเป็นจำเลยคดียิงเสือ 2 ตัว ในป่า1000 ไร่ ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ พร้อมเพื่อนอีก4คน เมื่อวันที่ 9 ม.ค.2465 ได้ตัดสินใจขายควายจำนวน 20 ตัว จากควายทั้งหมดที่มี 31 ตัว โดยมีพ่อค้าจากตัวอำเภอทองผาภูมิ เดินทางมาซื้อในราคา 345,500 บาท

นายจอแห่ง พนารักษ์ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่าตนเองตัดสินใจขายควายทั้งหมดที่เหลือจำนวน10ตัว เนื่องจากกลัวว่าหากตนเองต้องรับโทษจำคุก จากคดียิงเสือจะไม่มีคนเลี้ยง เพราะภรรยาของตนเองไม่สามารถเข้าป่าไปเลี้ยงควาย และดูแลให้ควายปลอดภัยจากเสือได้ ที่สำคัญเงินที่ได้จากการขายควายในวันนี้ จะช่วยให้ครอบครัวของตนเองดำเนินชีวิต อยู่ได้ในช่วงที่ตนเองไม่อยู่ ทั้งที่ใจจริงถ้าเลือกได้ตนเองก็ไม่อยากขาย เนื่องจากความผูกพัน ที่สำคัญควายเหล่านี้เป็นสมบัติที่พี่สาวแบ่งให้ โดยก่อนจะตัดสินขายควาย ตนได้หารือกับภรรยาแล้ว โดยวางแผนชีวิตต่อจากนี้เมื่อไม่มีควายแล้ว คงต้องไปดูแลสวนมะที่พ่อตามอบไว้ให้

ขณะที่นางอัจฉรา พี่สาว่นายจอแห่ง เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองยังเก็บควายไว้อีกจำนวนหนึ่ง เพื่อไว้เลี้ยงต่อ เนื่องจากตนเองยึดอาชีพปศุสัตว์มาจากพ่อแม่ และไม่เคยทำอาชีพอื่น แม้จะได้รับผลกระทบจากประกาศของอุทยานฯ ในเรื่องการห้ามทำปศุสัตว์ในพื้นที่ แต่ทุกคนที่นี่ยังไม่รู้จะทำอะไร หากไม่ได้เลี้ยงวัว ควาย แม้ปัจจุบันจะต้องเผชิญกับปัญหาเรื่องเสือกัดวัว - ควาย ชาวบ้าน ก็ตาม

ด้านนายประสาท แดงเถิน ผู้ใหญ่บ้านปิล็อกคี่ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่าตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ นายหวาน ชาวบ้านปิล็อกคี่ ถโดนเสือกัด และชาวบ้านพบร่อยรอยเสือใกล้พื้นที่ที่ชาวบ้านนำวัว- ควาย มาเลี้ยงซึ่งปัจจุบันห่างจากหมู่บ้านเพียง 1-2 กม ประกอบปัญหาขาดแคลนอาหาร ส่งผลให้วัว ควาย ของชาวบ้านผอมลงทุกวัน นอกจากนั้นยังเกิดปัญหาควาย วัว เข้าไปทำลายพืชผลทางการเกษตรของเพื่อนบ้าน เช่นต้นกล้วย มันสำปะหลัง ทำให้ช่วงนี้มีชาวบ้านหลายคนประกาศขายวัว - ควาย โดยตนเองพยายามเข้ามาช่วยดูการซื้อขาย เพื่อไม่ให้ชาวบ้านถูกเอาเปรียบด้วยการกดราคา จากพ่อค้าคนกลาง ซึ่งหากเป็นไปได้อยากให้ทางอำเภอส่งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ มาช่วยเหลือชาวบ้านด้วยการนำฟางข้าวมา เพื่อช่วยแก้ปัญหาเรื่องอาหารวัว ควาย ที่เริ่มมีปัญหาในช่วงนี้