ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  จากกรณีที่ นางคำปุ่น   พันธุชาติ   อายุ 52 ปี เจ้าของบ้านเลขที่ 7 หมู่ 21 บ้านอาวอยเหนือ ต.โสน อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ ได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.ขุขันธ์ เนื่องจากได้ตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดแล้วทราบว่า นายนิพล  โสดาพรหม  อายุ  25 ปี  อยู่บ้านเลขที่ 8 หมู่ 21 บ้านอาวอยเหนือ ต.โสน อ.ขุขันธ์  หลานชายซึ่งเป็นลูกชายของพี่สาวตนเองที่มีบ้านอยู่ห่างกันประมาณ 30 เมตร เป็นผู้เข้ามาพังบ้านของตนได้รับความเสียหาย  โดยพบว่า  เครื่องซักผ้า จำนวน 2 เครื่อง หม้อหุงข้าว จำนวน 1 ใบ  ครก 1 ใบ เก้าอี้พลาสติด 1 ตัว รถจักรยานยนต์ 1 คัน ถ้วยชาม โดนของมีคมฟันพังเสียหายยับเยิน   เหตุเกิดเมื่อวันที่ 31 ม.ค. 65  ที่ผ่านมา ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้  เมื่อเวลาประมาณ  14.30 น. วันที่ 1 ก.พ. 2565  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านเลขที่ 8 หมู่ 21 บ้านอาวอยเหนือ ต.โสน อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ  พ.ต.อ.พงศ์ทัศน์  พิมพ์เรือง  ผกก.สภ.ขุขันธ์  ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ ตร.ชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่ ตร.ชุดสายตรวจ สภ.ขุขันธ์ เข้าไปทำการจับกุมตัว นายนิพล  โสดาพรหม  อายุ  25 ปี  ผู้ก่อเหตุใช้มีดอีโต้ฟันพังทำลายทรัพย์สินบ้านของนางคำปุ่น   พันธุชาติ  อายุ  52 ปี  น้าสาวของตนเอง  โดยเมื่อเจ้าหน้าที่ ตร.เข้าไปถึงบ้านของนายนิพล พบว่า เป็นบ้านไม้ 2 ชั้น นายนิพล กำลังนั่งกินข้าวอยู่ในบ้าน เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเข้าทำการจับกุมนายนิพล ได้โดยละม่อม จากการตรวจค้นภายในห้องนอนของนายนิพล  พบยาบ้า จำนวน 1 เม็ด พร้อมอุปกรณ์ในการเสพยาบ้า และพบมีดอีโต้ที่ใช้ในการก่อเหตุ จำนวน  1 เล่ม ซุกซ่อนอยู่ในบริเวณ  เจ้าหน้าที่ ตร.จึงได้ทำการจับกุมตัวนายนิพล พร้อมของกลางไปส่งมอบให้ พนักงานสอบสวน สภ.ขุขันธ์ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป  โดยมี นายสมใจ   โสดาพรหม อายุ  58 ปี  พ่อของนายนิพล และนางคำปุ่น   พันธุชาติ  อายุ 52 ปี เป็นน้าสาวและผู้เสียหาย  นายเศรษฐศักย์   ศรีบรรฏิษฐ  ผญบ.หมู่ 21 บ้านอาวอยเหนือ มาสังเกตการณ์จับกุมตัวในครั้งนี้ด้วย

นายนิพล  โสดาพรหม  อายุ  25 ปี  ผู้ต้องหานี้ กล่าวว่า เหตุที่ตนเข้าไปพังบ้านของนางคำปุ่นซึ่งเป็นน้าสาวนั้น เนื่องจากว่าเขามาเข้ามาพังพัดลมของตนก่อน แต่ตนไม่ทราบว่าใครเข้ามาพังพัดลมของตน ตนโมโหคิดว่าเป็นพี่ชายที่เป็นลูกของน้าสาวจึงโมโหเลยแต่เข้าไปพังบ้านของนางคำปุ่น ตนยอมรับว่า เข้าไปทำลายทรัพย์สินของนางคำปุ่น และเสพยาบ้าจริงแต่ว่าก่อนเกิดเหตุตนไม่ได้เสพยาบ้าแต่อย่างใด แต่ยอมรับว่าเมาเหล้าจริงจึงได้เข้าไปก่อเหตุครั้งนี้

นางคำปุ่น   พันธุชาติ  อายุ 52 ปี ผู้เสียหายบอกว่า นายนิพนธ์เป็นลูกชายของพี่สาวแท้ ๆ ของตน การที่ตำรวจจับกุมนายนิพลไปได้ในครั้งนี้ ทำให้ตนรู้สึกสบายใจขึ้นได้และดีใจเพราะว่าจะได้ไม่ต้องหวาดผวากับพฤติกรรมของนายนิพลหลานชายแท้ๆ ของตนอีกต่อไป

นายอรรถสิทธิ์   ไชยนะรา อายุ  34 ปี  ลูกเขยของนางคำปุ่น กล่าวว่า การที่นายนิพลถูกจับกุมตัวไป ทำให้ตนและครอบครัวรู้สึกดีขึ้นและสบายใจที่จะได้ไม่ต้องหวาดผวาเกรงว่า นายนิพล จะเข้ามาทำลายสิ่งของอีกต่อไป  ตนขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ ตร.สภ.ขุขันธ์ ที่มาจับตัวนายนิพนธ์ผู้ก่อเหตุไปได้ ตนขอยืนยันว่าครอบครัวของตนจะดำเนินคดีกับนายนิพล ที่ก่อเหตุจนถึงที่สุดตามกระบวนการของกฎหมาย