เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



ศธ.ประกาศเพิ่มมาตรการคุมโควิด-19 สกัดระบาดภายในสถานศึกษา


3 ม.ค. 2565, 20:50



ศธ.ประกาศเพิ่มมาตรการคุมโควิด-19 สกัดระบาดภายในสถานศึกษา




วันนี้ ( 3 ม.ค.65 ) นายสุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ลงนามในประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง มาตรการป้องกันและควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ของกระทรวงศึกษาธิการ (เพิ่มเติม ครั้งที่ 1) ระบุว่า ตามที่กระทรวงศึกษาธิการได้มีประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง มาตรการป้องกันและควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ของกระทรวงศึกษาธิการ ลงวันที่ 30 และประกาศแนวปฏิบัติของกระทรวงศึกษาธิการภายหลังเทศกาลปีใหม่ ที่ ศธ 0100.1/ว3787 ลงวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ.2564 ซึ่งเป็นการกำหนดมาตรการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งหน่วยงาน และให้หลีกเลี่ยงการจัดกิจกรรมที่รวมกลุ่มคนจำนวนมาก นั้น

ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 อาจยังมีต่อเนื่องภายหลังจากเทศกาลวันปีใหม่ 2565 ฉะนั้น อาศัยอำนาจตามมาตร 23 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ.2546 จึงประกาศแนวปฏิบัติเพิ่มเติม เพื่อให้สถานศึกษาในสังกัดและในกำกับของกระทรวงศึกษาธิการ ดำเนินมาตรการป้องกันและควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของกระทรวงศึกษาธิการเพิ่มเติมดังนี้



1. ให้สถานศึกษาประเมินสถานการณ์ความเสี่ยงอย่างรอบด้านของนักเรียนหรือครูที่อาจเป็นกลุ่มเสี่ยงในการติดเชื้อโควิด-19 ในช่วงการเปิดเรียนตั้งแต่วันที่ 4 มกราคม 2565 เป็นต้นไป หากมีนักเรียนหรือครูที่เป็นกลุ่มเสี่ยงดังกล่าว ให้สถานศึกษาสามารถพิจารณาปรับการเรียนการสอนเป็นระบบการศึกษาทางไกล  (On air/ Online/ On hand/ On demand) ได้ตามความเหมาะสม และประสานกับคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดอย่างใกล้ชิด

2. ให้สถานศึกษาประเมินมาตรการการเปิดเรียนตาม Thai stop COVID plus และปฏิบัติตามข้อกำหนดของ 6 มาตรการหลัก (DMHT-RC), 6 มาตรการเสริม (SSET-CQ) และแนวทาง 7 มาตรการเข้มสำหรับสถานศึกษาโดยเคร่งครัด โดยพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดเป็นวงกว้างให้ปฏิบัติตามแนวทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด หรือตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด

3. ให้สถานศึกษาดำเนินมาตรการตามแผนเผชิญเหตุที่กำหนด กรณีนักเรียน ครู หรือ บุคลากรในสถานศึกษามีการติดเชื้อโควิด-19 หรือมีผลตรวจคัดกรองหาเชื้อเป็นบวก โดยให้มีการซักซ้อมอย่างเคร่งครัด และประสานความร่วมมือกับสถานพยาบาลเครือข่ายในพื้นที่ที่ดูแลอย่างใกล้ชิด







Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.