เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



อัยการสูงสุดสั่งฟ้อง 4 ข้อหาหนัก! อดีตผู้กำกับโจ้-พวก โทษสูงสุดประหารชีวิต


15 พ.ย. 2564, 16:47



อัยการสูงสุดสั่งฟ้อง 4 ข้อหาหนัก! อดีตผู้กำกับโจ้-พวก โทษสูงสุดประหารชีวิต




วันที่ 15 พ.ย. 64 มีรายงานว่า ที่สำนักงานอัยการสูงสุด นายอิทธิพร แก้วทิพย์ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา ในฐานะโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด พร้อมด้วย นายประยุทธ เพชรคุณ รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ ในฐานะรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด และนายวรินทร สาสนัส รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต แถลงข่าวความคืบหน้าการสั่งฟ้องคดี พ.ต.อ. ธิติสรรค์ อุทธนผล  อดีต ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์  หรือ ผกก.โจ้ กับพวกรวม 7 คนผู้ต้องหาที่ร่วมกันใช้ถุงดำคลุมศรีษะ นายจิระพงษ์ ธนะพัฒน์ หรือ มาวิน ผู้ต้องหาคดีค้ายาเสพติด ถึงแก่ความตายขณะที่อยู่ในความควบคุมของเจ้าพนักงาน

นายอิทธิพร ระบุว่า หลังจากอัยการได้รับสำนวนมาวันที่ 4 พ.ย. 64 ซึ่งพนักงานสอบสวนตั้งข้อกล่าวหามาทั้งหมด 4 ข้อหา คือ เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าพนักงานของรัฐร่วมกันปฏิบัติ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยทรมานหรือกระทำการทารุณโหดร้าย และร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่น ซึ่งอัยการได้พิจารณาแล้วให้มีคำสั่งฟ้องในทุกข้อหาและสำนักงานอัยการสูงสุดได้แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อมาพิจารณาคดีนี้โดยเฉพาะรวมทั้งหมด 6 คน โดยมีนายวุฒิรัตน์ มีผดุง รองอัยการสูงสุด เป็นหัวหน้าคณะทำงาน เพราะเป็นคดีสำคัญและจะมีหน้าที่ในการดำเนินคดีจนถึงที่สุด



นายอิทธิพร กล่าวอีกว่า สำนักงานอัยการคดีปราบปรามการทุจริตได้รับมอบหมายให้ไปยื่นฟ้อง อดีตผู้กำกับโจ้กับพวกรวม 7 คน ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางแล้วด้วย และได้คัดค้านการประกันตัว เพราะเป็นคดีร้ายแรง ประชาชนให้ความสนใจและเกรงว่าจำเลยจะไปยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน รวมถึงเกรงว่าจะหลบหนี ซึ่งมีหลักฐานเป็นเอกสาร7แฟ้มส่งศาลในวันนี้ด้วย เพราะศาลนี้จะใช้ระบบไต่สวน แตกต่างจากศาลอาญาที่ใช้ระบบกล่าวหา โดยหลังจากนี้ จะมีการนัดไต่สวนจึงต้องแนบเอกสารประกอบคำฟ้องแบบเปิดเผยด้วย และกระบวนการค้นหาความจริงในศาลนี้ ศาลจะลงมาค้นหาความจริงตามในระบบไต่สวนและให้ทนายถามคำถามเฉพาะที่ศาลอนุญาตเท่านั้น

ส่วนกรณีที่อดีตผู้กำกับโจ้ อ้างว่า ไม่ได้มีเจตนาฆ่า จะสามารถหักล้างข้อกล่าวหาได้หรือไม่นั้น นายอิทธิพร กล่าวว่า  เป็นสิทธิของผู้ต้องหาในการต่อสู้คดี แต่ทุกอย่างต้องขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาลว่าจะพิจารณาว่าเจตนาหรือไม่ และพยานหลักฐานที่มีเป็นไปตามข้อกล่าวหา ส่วนผู้ต้องหาจะมีพยานหลักฐานใดมาหักล้างก็ต้องอยู่ที่ชั้นศาล


นายวรินทร กล่าวว่า จากการตรวจสำนวนของพนักงานสอบสวนกองปราบปราม ทำได้เห็นว่าสำนวนมีความละเอียดรอบคอบ ส่วนศาลจะรับฟังมากน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล แต่พยานหลักฐานเท่าที่รวบรวมมาค่อนข้างสมบูรณ์

รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ ในฐานะรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า กรณีนี้เป็นการตายในระหว่างเจ้าพนักงานควบคุมตัว หลังมีผลชันสูตรพลิกศพ และพยานหลักฐาน พนักงานอัยการก็ได้พิจารณาสำนวนถี่ถ้วนแล้ว ให้ความมั่นใจได้ว่าสำนวนที่ทำมาผ่านขั้นตอนต่างๆ จนไปถึงอัยการสุงสุด ทุกกระบวนการพนักงานอัยการล้วนมีความรู้ความเชี่ยวชาญ และเมื่อสั่งฟ้องแล้วก็ให้ความมั่นใจได้ว่า สำนวนละเอียดถี่ถ้วนแน่นอน จึงได้สั่งฟ้องทุกข้อหาโดยเฉพาะข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยทรมาน ซึ่งเป็นข้อหาที่มีโทษสูงสุดคือ ประหารชีวิต


คำที่เกี่ยวข้อง : #ผู้กำกับโจ   #ONBnews   #โอเอ็นบีนิวส์  




Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.