เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



ปศุสัตว์ จ่อขยายกัญชง-กัญชา-กระท่อม สู่ธุรกิจอาหารสัตว์


1 พ.ย. 2564, 10:39



ปศุสัตว์ จ่อขยายกัญชง-กัญชา-กระท่อม สู่ธุรกิจอาหารสัตว์




เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2564 ​นายสรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า จากกระแสกัญชา กัญชง และกระท่อมกำลังมาแรง ซึ่งเป็นพืชสมุนไพรของไทยมายาวนาน มีผู้สนใจและมีงานวิจัยทยอยออกมามากมาย ล่าสุดได้มีการปลดล็อกส่วนของพืชกัญชา กัญชง และกระท่อม ออกจากรายชื่อยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 เพื่อให้ประชาชนสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ทางการค้า การแพทย์ และการศึกษาวิจัย 

กรมปศุสัตว์เล็งเห็นความสำคัญของการนำไปใช้อย่างถูกกฎหมาย จึงได้เตรียมออกประกาศเกี่ยวกับอาหารสัตว์เพื่อรองรับผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของพืชกัญชา กัญชงและกระท่อม โดยร่วมมือกับภาครัฐ ภาคเอกชน สถานศึกษา รวมถึงสถาบันวิจัยต่างๆ ในการศึกษา วิจัยและพัฒนา เพื่อกำหนดค่ามาตรฐานที่ยอมรับให้ใช้ได้ในอาหารสัตว์ ซึ่งจากงานวิจัยพบว่ากัญชงเป็นพืชที่มีโปรตีนสูงมากและของเหลือจากการเก็บเกี่ยวหรือการนำมาแปรรูป สามารถนำมาเพิ่มมูลค่าในการผลิตเป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์ได้ โดยเฉพาะส่วนของกากเมล็ดกัญชงหลังจากที่บีบสกัดน้ำมันออกไปแล้ว มีคุณค่าใกล้เคียงเทียบเท่ากากถั่วชนิดต่างๆ ที่เป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่นำเข้าจากต่างประเทศ โดยกากสกัดเมล็ดกัญชงมีโปรตีนรวม 29.15% ให้พลังงาน 4,785.24 แคลอรีต่อกรัม มีกรดไขมันที่โดดเด่นอย่างโอเมก้า 3 และ 6 ปริมาณ 8.25 กรัมต่อกากเมล็ดกัญชง 100 กรัม รวมถึง กรดอะมิโนอีก 17 ชนิด ที่โดดเด่นคือ Glutamic acid, Leucine, Lysine และ Methionine



ปัจจุบันยังเป็นเรื่องใหม่ที่น่าสนใจในการนําส่วนประกอบของกัญชา กัญชงและกระท่อมมาใช้เป็นอาหารสัตว์ในสัตว์ปศุสัตว์ที่เป็นสัตว์เลี้ยงในฟาร์ม เช่น สุกร ไก่ และโค โดยเลี้ยงสัตว์ที่ให้ผลผลิตสัตว์เพื่อใช้บริโภค เช่น เนื้อ นม และไข่ เป็นต้น จะต้องคํานึงถึงประโยชน์ในด้านคุณค่าทางโภชนาการของอาหารสัตว์ที่จะนําไปใช้ ความปลอดภัยต่อสุขภาพสัตว์รวมถึงประเด็นของสารตกค้างที่อาจเกิดขึ้นที่จะส่งผลต่อความปลอดภัยของผู้บริโภคและข้อคํานึงของประเทศคู่ค้าในฐานะผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์สัตว์ด้วย ซึ่งในกรณีของอาหารสัตว์เลี้ยง ปัจจุบันตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงมีการเติบโตค่อนข้างสูงทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2564 มีมูลค่าการส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยงมากกว่า 5 หมื่นล้านบาท และในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา มีการเติบโตสูงถึงร้อยละ 7-10 ต่อปี 

หากผลการทดลองหรือวิจัยเกี่ยวกับการนำกัญชา กัญชงและกระท่อม มาเป็นส่วนประกอบในการผลิตอาหารสัตว์เลี้ยง มีความปลอดภัย และมีสรรพคุณส่งเสริมสุขภาพของสัตว์เลี้ยง กรมปศุสัตว์จะส่งเสริม สนับสนุนภาคเอกชนให้มีการผลิตและส่งออกทุกรูปแบบ เพื่อให้ธุรกิจด้านอาหารสัตว์เลี้ยงเติบโต และเป็นผู้นำในตลาดโลกอย่างยั่งยืน โดยการนำส่วนประกอบของกัญชา กัญชงและกระท่อม มาผลิตเป็นอาหารสัตว์ มีความเกี่ยวข้องกับกฎหมายหลายฉบับ ได้แก่ (1) พระราชบัญญัติควบคุมคุณภาพอาหารสัตว์ พ.ศ.2558 (2) พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 7) พ.ศ.2562 (3) พระราชบัญญัติยา พ.ศ.2510 และ (4) พระราชบัญญัติผลิตภัณฑ์สมุนไพร พ.ศ.2562 รวมทั้งประเด็นการขึ้นทะเบียนของผลิตภัณฑ์ในอาหารสัตว์มีข้อพิจารณาที่มีความเฉพาะ ทั้งในด้านประโยชน์ คุณค่าทางโภชนาการของอาหารสัตว์ประเภทต่างๆ รวมถึงข้อคำนึงด้านความปลอดภัยต่อสัตว์และผู้บริโภคที่บริโภคผลิตภัณฑ์สัตว์ ซึ่งต้องมีข้อมูลทางวิชาการและงานวิจัยที่เป็นหลักฐานเชิงประจักษ์มาสนับสนุนการใช้ผลิตภัณฑ์กัญชา กัญชงและกระท่อม จึงเห็นควรให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการกำกับดูแลกัญชา กัญชงและกระท่อม หารือในรายละเอียดในการกำกับดูแลต่อไป

​อธิบดีกรมปศุสัตว์กล่าวเพิ่มเติมว่า นับเป็นโอกาสและแนวโน้มที่ดีในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เพื่อตอบรับนโยบายการเปิดประเทศของรัฐบาล ซึ่งถ้ามีข้อมูลพิสูจน์และหลักฐานสนับสนุนที่ชัดเจนจะสามารถต่อยอดให้ด้านเศรษฐกิจ ในการส่งออกอาหารสัตว์ที่ผสมและผลิตจากสมุนไพรไทย เพิ่มศักยภาพและความแตกต่างในการเข้าแข่งขันสู่ตลาดอาหารสัตว์โลกรายแรก (First Mover) สร้างอัตลักษณ์ของประเทศ สามารถถ่ายทอดองค์ความรู้ที่ได้ เพื่อสร้างอาชีพและรายได้ให้เกษตรกรต่อไปในอนาคต







Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.