เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



ย้อนประวัติ "อดีตพระยันตระ" จากพระสู่ห่มผ้าเขียว!


22 ต.ค. 2564, 10:44



ย้อนประวัติ "อดีตพระยันตระ" จากพระสู่ห่มผ้าเขียว!




ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในโลกโซเชียล มีการแชร์ภาพ นายวินัย ละอองสุวรรณ หรือ อดีตพระยันตระ อมโรภิกขุ อดีตพระภิกษุชื่อดัง ที่เดินทางกลับมายังประเทศไทยในรอบหลายปี เพื่อร่วมพิธี เนื่องในวันครบรอบ 70 ปี เมื่อวันที่ 14 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยมีลูกศิษย์ รวมไปถึงพระสงฆ์ เข้ามาร่วมในพิธี และกราบไหว้เป็นจำนวนมาก ซึ่งหลายคนก็ตั้งข้อสงสัยว่า พระสงฆ์สามารถกราบฆราวาสได้หรือ

สำหรับ "อดีตพระยันตระ" หรือ "นายวินัย ละอองสุวรรณ" เคยตกเป็นคดีใหญ่อันโด่งดังเมื่อปี 2537 คดีล่วงละเมิดเมถุน นางจันทิมา กระทั่งมีคำสั่งให้ขาดจากความเป็นพระภิกษุตามพระวินัยบัญญัติ ก่อนที่เจ้าตัวจะเดินทางไปยังสหรัฐอเมริกา เมื่อปี พ.ศ. 2537 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งพระยันตระ ถือได้ว่าเป็นอดีตภิกษุชื่อดังที่มีผู้เคารพศรัทธามากทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศในช่วงหนึ่ง ก่อนจะถูกฟ้องคดีกล่าวหาว่าต้องปาราชิกาธิกรณ์และถูกมติมหาเถรสมาคมลงให้พ้นจากภาวะพระภิกษุ

 



เมื่อย้อนประวัตพบว่า นายวินัย เป็นชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช เกิดเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2494 ก่อนอุปสมบทเป็นพระภิกษุ เขาได้ปฏิบัติตนเป็นนักพรตฤๅษีอยู่หลายปีจนเป็นที่รู้จักกว้างขวาง ต่อมาได้อุปสมบทเป็นภิกษุในธรรมยุติกนิกายเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2517 ณ พัทธสีมาวัดรัตนาราม อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช

เมื่อพระวินัยอุปสมบทมักใช้คำแทนตัวว่า "พระยันตระ" ซึ่งแปลว่าผู้ไกลจากกิเลส ที่เคยใช้มาตั้งแต่ยังเป็นฤๅษียันตระ เมื่อบวชแล้วเป็นที่รู้จักดีทำให้มีผู้ศรัทธาบวชเพื่อเข้าเป็นลูกศิษย์มากมาย ทำให้เขามักแวดล้อมไปด้วยพระสงฆ์คอยอุปัฏฐากอยู่เสมอ ๆ นอกจากนี้ยังมีผู้ศรัทธาสร้างสำนักวัดถวายเขาหลายแห่ง โดยทุกวัดที่สร้างในสำนักเขาจะใช้คำว่า "สุญญตาราม" ประกอบด้วยเสมอ  และสำนักที่เป็นที่รู้จักดีคือ วัดป่าสุญญตาราม กาญจนบุรี และยังมีสำนักวัดป่าสุญญตารามของเขาในต่างประเทศอีกหลายแห่ง เช่นที่ วัดป่าสุญญตาราม เมืองบันดานูน รัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย เป็นต้น

พระยันตระ ถือเป็นพระสงฆ์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากที่สุดในยุคนั้น มีการตีพิมพ์เผยแพร่คำสอนรวมถึงได้รับนิมนต์ไปเทศนายังที่ต่าง ๆ ทั้งในและต่างประเทศ คำสอนของเขาเน้นแนวทางปฏิบัติกรรมฐานซึ่งได้รับการยอมรับจากนักวิชาการศาสนาว่าถูกต้องกับพระไตรปิฎก


แต่ในปี พ.ศ. 2537 เขาได้ถูกฟ้องร้องหลายข้อหาและถูกตั้งอธิกรณ์ว่าล่วงละเมิดเมถุนธรรมปาราชิกาบัติ อันเป็นหนึ่งในจตุตถปาราชิกาบัติที่ทำให้ขาดจากความเป็นพระภิกษุตามพระวินัยบัญญัติ โดยมีการต่อสู้ด้วยพยานหลักฐานมากมายตามสื่อต่าง ๆ เป็นข่าวโด่งดังในสมัยนั้นอย่างมาก

ภาพสีกากลุ่มหนึ่งยื่นหนังสือร้องเรียน ต่อสมเด็จพระสังฆราชฯ และอธิบดีกรมการศาสนาว่า นายวินัย ละอองสุวรรณ เดินทางไปเทศนาที่ทวีปยุโรป ระหว่างลงเรือเดินสมุทรไม่สำรวมและมีความไม่เหมาะสมกับสมณเพศต่อสุภาพสตรี กระทั่งสืบสาวราวเรื่องจนในที่สุดเขาได้ถูกมติมหาเถรสมาคมพิจารณาอธิกรณ์ปรับให้เขาพ้นจากความเป็นพระภิกษุ เพราะพิจารณาได้ความว่าเขาต้องอาบัติหนักดังที่ถูกฟ้องร้อง

แต่นายวินัยไม่ยอมรับมติสงฆ์ดังกล่าว ด้วยการปฏิญาณตนว่ายังเป็นพระภิกษุและเปลี่ยนสีจีวรเป็นสีเขียว ทำให้ถูกสื่อต่าง ๆ ขนานนามว่า จิ้งเขียว, สมียันดะ, ยันดะ เป็นต้น ก่อนที่นายวินัยจะลักลอบทำหนังสือเดินทางปลอมเพื่อหลบหนีออกจากประเทศไทยไปอยู่ในสหรัฐอเมริกาและได้รับสถานะผู้ลี้ภัยทางการเมือง ทำให้นายวินัยสามารถหลบหนีคดีความอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกาได้จนถึงปัจจุบัน และเมื่อคดีหมดอายุความ การกลับมาไทยครั้งนี้จึงได้รับความสนใจอย่างมาก

ข้อมูล : วิกิพีเดีย
ภาพ : inn






Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.