รายงานข่าวระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จะเป็นธานการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ครั้งที่ 15/2564 ในเวลา 10.30 น. โดยจะมีการรับรองรายงานการประชุม เมื่อวันที่ 10 ก.ย. ที่ผ่านมา

จากนั้นศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุขกรณีโรคติดเชื้อโควิด-19 (ศปก.สธ.) จะรายงานสถานการณ์และคาดการณ์แนวโน้มการแพร่ระบาดและผู้ติดเชื้อ, กระทรวงแรงงานรายงานเรื่องการปรับรายละเอียดของโครงการแฟคตอรี่แซนด์บ็อกซ์ ระยะที่ 2, กระทรวงพลังงานรายงานเรื่องการแก้ไขผลกระทบที่เกิดจากการปฏิบัติตามคำสั่ง ศบค. ฉบับที่ 12/2564 กรณีผู้เดินทางเข้าออกราชอาณาจักรทางน้ำเพื่อปฏิบัติภารกิจที่เกี่ยวข้องกับกิจการปิโตรเลียม

อย่างไรก็ตาม ศบค.จะพิจารณาความเหมาะสมในการขยายระยะเวลาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร ครั้งที่ 14 โดยศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19​ ของสภาความมั่นคงแห่งชาติ​ (สมช.) จะเป็นผู้เสนอ, การปรับมาตรการป้องกันและควบคุมโรค ที่เสนอโดยศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุขกรณีโรคติดเชื้อโควิด-19 กระทรวงสาธารณสุขเสนอ, การปรับมาตรการสำหรับผู้เดินทางเข้าราชอาณาจักร​ (การปรับลดระยะเวลาในการกักกัน การทำกิจกรรมในสถานที่กักกัน) และหลักเกณฑ์ แผนงานและแนวทางการเปิดพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว เสนอโดยกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, แผนการให้บริการวัคซีนโควิด-19 ในเดือนตุลาคม-ธันวาคม 2564 และแผนการบริหารจัดการวัคซีนโควิด-19 ปี 2565 เสนอโดย ศปก.สธ.

ขณะที่ ในช่วงท้ายของการประชุมศูนย์ปฏิบัติการด้านการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง จะรายงานเรื่องการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 รวมถึงรายงานผลการดำเนินงาน ปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะของสำนักงาน และศูนย์ปฏิบัติการด้านต่างๆ

ที่มา : มติชน