ในส่วนสาเหตุคาดว่าเกิดจากพระทั้ง 2 รูปมีปากเสียงกันเรื่องที่พระสมเพชรชอบพูดแซวแหยีพระวชิระว่าไม่มีลูกศิษย์คอยตามบิณฑบาตให้ จนทำให้พระวัชชิระเกิดความไม่พอใจจึงปรี่เข้ามาผลักอกพระสมเพชรจนล้มหงายท้องหัวฟาดเข้ากับขอบปูนบันไดหมดสติ หลังจากพระวชิระก่อเหตุเสร็จก็ทำเป็นไม่เหมือนอะไรเกิดขึ้น เดินเข้าไปหลบอยู่ที่กุฏิของตน จากนั้นเจ้าอาวาสทราบเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดจากพระลูกวัดก็เรียกให้พระวชิระมาทำการสึกจากการเป็นพระภิกษุสงฆ์ แต่พระวชิระไม่มาและหายตัวออกจากวัดไปจนกระทั่งเมื่อวันที่ 24 กันยายน 64 พระวชิระก็ได้เข้ามาที่เจ้าอาวาสวัดบางภาษีจากนั้นเจ้าอาวาสวัดบางภาษีก็ได้ทำการสึกให้ และนายวชิระยังกล่าวอีกว่าจะมาเข้ามอบตัว ในวันจันทร์ที่ 27 กันยายน 64 ที่สภ.บางเลน

จากการสอบถามนายสมัค  ทบศรี อายุ 38 ปีลูกชายพระสมเพชร ตนเองได้รับโทรศัพท์จากพระที่วัดบางภาษีว่าพ่อตนโดนทำร้ายจนเข้าโรงพยาบาลจากนั้นจึงนั่งรถจากกรุงเทพฯกลับมาที่บ้าน อ.บางเลนและได้ตามไปที่โรงพยาบาลนครปฐม และสอบถามเหตุการณ์ทั้งหมดกับพระและลูกศิษย์ว่าเกิดเหตุการณ์ขึ้นได้อย่างได้อย่างไรจากนั้นวันที่ 21 ก.ย.64 ตนเองได้เดินทางไปที่สถานีตำรวจภูธรบางเลนเข้าพบ

พ.ต.ท.ภัฏ อินเถลิงศักดิ์ สารวัตรสอบ สภ.บางเลน แจ้งความไว้ว่านายวชิระ ได้ทำร้ายร่างกายพ่อของตนเองและจะให้ดำเนินคดีจนถึงที่สุด