วันที่ 9 กันยายน 2564 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผบช.ภ.3 พร้อมด้วย พล.ต.ต.คีรีศักดิ์ ตันติวะชัย รอง ผบช.ภ.3 พล.ต.ต.สันติ เหล่าประทาย ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ นายสำรวย เกษกุล รอง ผวจ.ศรีสะเกษ พ.อ.ณัฐพงศ์ จินดาเวช รอง ผอ.กอ.รมน.จ.ศรีสะเกษ พ.ต.อ.ศุภชัย ศักรินพานิชกุล รอง ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่เรือนจำ จ.ศรีสะเกษ ได้ร่วมกันแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนถึง ผลการจับกุมเครือข่ายคดียาเสพติดรายใหญ่ มีการนำเอาของกลางจำนวนมาประกอบการแถลงข่าวในครั้งนี้

 

พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผบช.ภ.3 กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ทุกส่วนที่เกี่ยวข้องสามารถจับกุมได้ 2 เครือข่าย  ซึ่งเครือข่ายแรก สภ.กันทรลักษ์  ได้จับกุมเครือข่ายคดียาเสพติดรายสำคัญ ในพื้นที่ อ.กันทรลักษ์  อ.โนนคูณ และอ.น้ำเกลี้ยง จำนวน 1 เครือข่าย 7 ราย ผู้ต้องหา 8 คน ยาบ้าจำนวน 81,971 เม็ด ไอซ์ 359.36 กรัม ยึดทรัพย์ รถยนต์ จำนวน 2 คัน จักรยานยนต์ จำนวน 1 คัน รวมมูลค่า 1,025,000 บาท และเครือข่ายที่ 2  สภ.เบญจลักษ์  จับกุมเครือข่ายยาเสพติดในพื้นที่ อ.เบญจลักษ์ และอ.โนนคูณ จำนวน 1 เครือข่าย 11 ราย ผู้ต้องหาจำนวน 12 คน ของกลาง ยาบ้า 111,310 เม็ด กัญชาแห้งอัดแท่ง น้ำหนัก 23.3 กิโลกรัม นอกจากนี้ยังสามารถจับกุมผู้ต้องหาค้ายาเสพติดในพื้นที่ อ.วังหิน และอ.ภูสิงห์ ได้ผู้ต้องหาอีกจำนวน 5 ราย  ยาเสพติดเหล่านี้ไม่ได้มีแหล่งผลิตใน จ.ศรีสะเกษ และในประเทศไทย แต่เป็นยาเสพติดที่ถูกลักลอบเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน เพราะฉะนั้นตำรวจภูธรภาค 3 จึงมีนโยบายในการแก้ไขปัญหายาเสพติด และสิ่งที่มองเห็นเป็นมิติได้คือการร่วมมือกับทุกฝ่ายโดยเฉพาะตามแนวชายแดนที่เป็นหน้าที่ของฝ่ายทหาร ในการสกัดกั้นยาเสพติด แต่หากว่ามีการเล็ดรอดเข้ามาได้ก็ต้องเป็นหน้าที่ของตำรวจในการปราบปราม พร้อมกับต้องขยายผลในการจับกุม แต่ทุกสิ่งทุกอย่างหากไม่ได้รับความร่วมมือกับทุกฝ่ายก็ไม่มีทางที่จะปราบปรามยาเสพติดลงไปได้ ตนจึงขอฝากไปยังพี่น้องประชาชนทุกท่านว่า หากมีข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับยาเสพติดก็สามารถแจ้งเบาะแสให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทุก สภ.ใกล้บ้าน เพื่อที่จะได้ช่วยปราบปรามยาเสพติดให้หมดไปจากชุมชนของท่านต่อไป ตนต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ ตร.ชุดสืบสวนทุก สภ.และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องที่ได้ร่วมกันจับกุมยาเสพติดในครั้งนี้