จากกรณีที่มีการเผยแพร่คลิป ชายหัวร้อนขับรถปาดแล้วขับรถลงมาพร้อมไม้เบสบอลแล้วมาโวยวาย ในเพจของ “อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น Part 1” ได้โพสต์ข้อความดังนี้ “ไม่รู้ใครผิดถูก แต่อย่าลืมหัวร้อนนอนนคุกนะไอ้ทิดด ถถถ มีสติกันมากกๆ ดิ เหตุเกิดที่ อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี เจอสถานการณ์แบบนี้ควรทำไงดีกะคนเมา...” โดยในคลิปดังกล่าวจะเห็นรถกระบะสองตอนยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแมกซ์ สีดำ  ขับรถมาปาดหน้าและขวางรถของเจ้าของคลิปและมีชายใส่หมวก ใส่แว่น สวมเสื้อยืดสีน้ำเงินด้านใน ใส่เสื้อคลุมสีลายพลางด้านนอก ใส่กางเกงยีนส์ มีผ้าพันคอ ได้ลงจากรถและถือไม้เบสบอลลงมาพร้อมชี้หน้าด่าว่าและโวยวาย

 ผู้สื่อข่าว ONB news จึงได้โทรไปสอบถามในกรณีที่เกิดขึ้นกับ นายวิชยุตม์ อายุ 30 ปี ชาวอำเภอคลองหลวง จ.ปทุมธานี เจ้าของคลิปดังกล่าวได้เล่าว่า “วันนั้นผมจะไปส่งลูกพันธุ์ปลาที่จังหวัดสิงห์บุรี ซึ่งผมขับรถมาจากจังหวัดปทุมธานี จนมาถึงตรงแยกไฟแดงที่จะเลี้ยวขวาไปอำเภออินทร์บุรี คู่กรณีเลี้ยวมาจากฝั่งตรงข้ามแต่เลี้ยวซ้ายไปอินทร์บุรีเหมือนกัน ในจังหวะนั้นพอดีลูกค้าโทรมาว่าจะถึงหรือยัง เพราะเดี๋ยวจะออกไปข้างนอก ผมจึงใช้ความเร็วในการขับรถเพิ่มแต่ก็ไปได้ไม่เร็วมากนัก แต่ก็ไม่ได้ขับติดรถของคู่กรณีเพราะเขาแซงคันอื่นหมดแล้ว บางทีก็เห็นท้ายเขาบ้าง บางทีก็ไม่เห็นเพราะทางมันโค้งไปโค้งมา สักพักก็จะเหลือแค่ 2 เลนสวนกัน มีรถบรรทุกข้างหน้าขับช้า รถคู่กรณีต่อท้าย รถผมก็ไปต่อท้ายรอแซง สักพักเขาหลบซ้ายจนแทบตกถนน ผมก็ยังพูดกับแฟนว่าสงสัยเมียคงด่าเพราะขับรถเร็ว พอรถว่างผมก็แซง รถเขาก็ขับตามมาพอเหลืออีกกิโลกว่าๆ ผมก็เลี้ยวซ้ายเข้าซอยเพื่อที่จะเข้าบ้านลูกค้า พอขับไปได้ร้อยกว่าเมตรเขาก็แซงพอแซงไปได้ก็เบรกรถขวางรถผม จากนั้นก็เป็นตามคลิปถือไม้เบสบอลลงมาจะฟาด จะให้ผมยอมรับให้ได้ว่าผมตามจี้รถเขา ผมไปส่งลูกปลาเป็นสิ่งมีชีวิตไปถึงลูกค้าไวก็ยิ่งดีใช่ไหมครับ ผมบอกผมไปส่งลูกปลา เขาบอกกูก็มีปืนยิงปลาหลังรถ รถคู่กรณีนั้นทะเบียนกรุงเทพ ข้างหลังมีอุปกรณ์ตกปลา แต่ไม่ทราบว่าเขาเป็นคนที่ไหน ผมบอกผมไม่ได้จี้ เขาบอกว่ามึงสาบาน ผมบอกผมสาบาน เขาก็จะตีจนผมต้องยอมรับและขอโทษไปก่อน เพราะแฟนผมมาด้วยและสินค้าก็มีมูลค่าหลายบาท เขาโวยวายอยู่ประมาณ 10 นาที เอาปลาที่เขาตกได้มาวาง เอาปืนยิงปลาลงมา จากนั้นพอรถใหญ่มาเขาก็เก็บของก่อนเขายังด่าผมอีก ก่อนไป”

 นายวิชยุตม์ กล่าวว่า หลังจากนั้นผมได้กลับไปแจ้งความออนไลน์ที่ สภ.คลองหลวง เพราะเนื่องจากวันที่เกิดเหตุจะรีบกลับไปทำงานต่อจึงไม่ได้แจ้งความที่ สภ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี